นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ห้วหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กคืนวานนี้ว่า วิตกกังวลแทนอนาคตประเทศไทย เนื่องจากผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 97 วันยังไม่มีรัฐบาลเป็นตัวเป็นตน ทั้งที่มีปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชนรอการแก้ไขมากมายทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความชัดเจนเรื่องเดียวคือนายกรัฐมนตรีเป็นคนเดิม คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งออกมาข่มขู่จะรัฐประหารตัวเองเข้าคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เพื่อตัดปัญหาการแก่งแย่งตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีภายในพรรคพวกตนเอง โดยการสร้างวาทกรรมทำนองว่าการเลือกตั้งมีแต่สร้างความวุ่นวาย ขณะที่การรัฐประหารเป็นทางออกทางลัดที่ช่วยเหลือประเทศได้ ทั้งๆ ที่ภาวะที่พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในสภาพพิกลพิการ ไร้เสถียรภาพ แก่งแย่งผลประโยชน์กันไม่จบนั้น เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่วางกฎเกณฑ์ไว้อย่างจงใจเอื้อให้เกิดรัฐบาลหลายพรรคอันอ่อนแอ ไร้เสถียรภาพ และจำใจต้องเลือกร่วมรัฐบาลกับหัวหน้า คสช. เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
"ผมเชื่อว่าผ่านไป 5 ปีภายใต้ คสช. ประชาชนชาวไทยรู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่า รัฐประหารไม่ใช่ทางออก มีแต่จะพาประเทศถลำลึกในวังวนปัญหา แต่นายกฯ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วหลังผ่านการเลือกตั้ง ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพูดจาบ่อนทำลายระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งเช่นนี้"นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวต่อว่า แม้พล.อ.ประยุทธ์จะโยนปัญหาตั้งรัฐบาลไม่ได้ไปให้นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล แต่คนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากการตั้งรัฐบาลไม่ได้เสียทีก็คือตัวพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล คสช.นั่นเอง เพราะตราบใดที่ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ และรัฐบาล คสช.ยังมีอำนาจเต็มทุกประการ
"ช่วยกันจับตาดูนะครับว่าตอนนี้ดูเหมือนรัฐบาล คสช.กำลังเร่ง "ทิ้งทวนโครงการหมื่นล้านแสนล้าน" อย่างมูมมามในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อตอบแทนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจโดยไม่สนใจผลประโยชน์ของสาธารณะและประชาชน"