นายอุตตม เสาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มสามมิตร เปิดแถลงข่าวสยบความขัดแย้งภายในพรรค โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ยืนยันว่า ทางกลุ่มสามมิตรได้มีการพูดคุยกันล่าสุดแล้วว่าจะไม่ขอตั้งเงื่อนไขหรือสร้างปัญหาใดๆ ให้กับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี โดยขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาผู้เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในทุกกระทรวง
"ประเด็นหลักที่อยากจะสื่อสารในวันนี้ คืออยากชี้ให้เห็นว่ากลุ่มสามมิตรจะไม่สร้างปัญหาให้กับท่านนายกฯ ซึ่งหลังจากที่เมื่อวานทางกลุ่มได้แถลงข่าวออกไป ท่านนายกฯ ก็คงรับทราบข้อมูลแล้ว กลุ่มเราได้มาตกลงกันแล้วว่า อยากจะให้นายกฯ สบายใจ เพื่อให้มีเวลาทุ่มเททำงานให้ประเทศ ดังนั้นการที่กลุ่มสามมิตรจะได้ตำแหน่งอะไร ไปอยู่ตรงไหน เรามอบอำนาจเด็ดขาดให้ท่านนายกฯ เราไม่ขอเรียกร้องอะไร ให้ท่านนายกฯ ได้ตัดสินใจ"นายสุริยะ กล่าวในการแถลงข่าว
พร้อมชี้แจงว่าวานนี้ (1 ก.ค.) กลุ่มสามมิตรนัด ส.ส.ในกลุ่มมาหารือกัน ซึ่งเดิมจะมาแสดงความยินดีกับตนที่จะได้เป็นรมว.พลังงานตามโผที่เป็นกระแสข่าวในตอนแรก แต่เมื่อทราบว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ ส.ส.ในกลุ่มไม่พอใจ โดยเฉพาะข่าวที่ระบุว่านายอนุชา นาคาศัย จะไม่มีรายชื่ออยู่ใน ครม.ทั้ง ๆ ที่นายอนุชาทำงานทุ่มเทตั้งแต่ก่อตั้งพรรค เป็นตัวจักรสำคัญ หาส.ส.มาอยู่ในกลุ่มสามมิตร กำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียง
"ท่านอนุชา ยอมเสียสละ ทั้งๆ ที่สามารถจะไปอยู่ในบัญชีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ได้ แต่ก็เสียสละไปลงส.ส.เขต ที่ไม่มีความแน่นอน ซึ่งการที่ทุ่มเทขนาดนี้ หากอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ก็คงได้อยู่ในลำดับต้นๆ แต่ท่านก็ยอมเสียสละมาลงส.ส.เขต และที่สำคัญไม่มีเวลาลงพื้นที่ตัวเอง เอาเวลาไปหาเสียงที่ภาคอื่นๆ ด้วย ซึ่งท่านก็อาจจะน้อยใจ แต่ในที่สุดก็ได้พูดคุยกันแล้ว"นายสุริยะกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวไปเมื่อวานกลุ่มสามมิตรจึงกลับมาหารือกันอีกครั้งและเห็นตรงกันว่าขอยอมรับให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจตัดสินใจไปตามความเหมาะสม โดยจะไม่มีข้อเรียกร้องหรือขอให้ทบทวนใดๆ ตามมาอีก
"ถ้าเห็นจากแถลงการณ์ของกลุ่มเมื่อวานนี้จะเห็นว่าในข้อสุดท้ายที่ระบุว่า ถ้านายกฯ ไม่พิจารณาตามที่กลุ่มเรียกร้องไป ทางกลุ่มฯ จะมากำหนดท่าทีใหม่ในการดำเนินการต่อไป ซึ่งเมื่อวานนี้ทางกลุ่มคุยกันจนจบแล้วว่าข้อเรียกร้องนี้คงไม่มี ถ้าท่านนายกฯตัดสินใจมาอย่างไร ก็จะไม่มีการทบทวนท่าที นายกฯ ตัดสินใจอย่างไร พวกเราจะเคารพการตัดสินใจนั้น และจะไม่ออกมางอแง" นายสุริยะกล่าว
ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเสริมว่า การแสดงความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค ย่อมเกิดขึ้นได้ในพรรคระบอบประชาธิปไตย และถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่อาจจะเสียงดังไปนิด ก็ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ดี ประเด็นหลักคือเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดของกลุ่มสามมิตรนั้นเป็นการสะท้อนความคิดในฐานะของ ส.ส. ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็ได้จบแล้วทุกคนเข้าใจดี พร้อมเดินหน้าการทำงานต่อไป
"กลุ่มสามมิตรแจ้งผมว่าพร้อมจะเดินหน้าต่อไป การแสดงเจตนารมย์มีเพียงเท่านี้ เมื่อได้ทำแล้วก็ถือว่ายุติ ขั้นตอนในการจัดตั้งรัฐบาลก็ถือว่าเป็นเรื่องที่นายกฯ ดูแลต่อไป กลุ่มสามมิตรแจ้งเช่นนั้น เรื่องทั้งหลายเดินมาในกรอบประชาธิปไตย อาจจะแรงไปบ้าง ก็เพราะเราเป็นพรรคใหญ่ มากันหลากหลาย ก็เป็นพลังอย่างหนึ่ง แต่ประเด็นคือเสร็จแล้ว เรายุติได้ เราจะเดินหน้าต่อ การตั้ง ครม.เป็นไปตามที่นายกฯ พิจารณา ไมมีข้อใดจะเป็นเงื่อนไขอีก" หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุ
ส่วนประเด็นที่ ส.ส.กลุ่มสามมิตรแสดงความไม่พอใจต่อบทบาทการทำงานในฐานะเลขาธิการพรรค ของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ ส.ส.จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้เช่นกัน แต่หลังจากได้คุยกับนายสนธิรัตน์เมื่อวานนี้ก็มีความเข้าใจดี และได้มีการออกแถลงการณ์ไม่ขอรับตำแหน่ง รมว.พลังงานของนายสนธิรัตน์ ก็เป็นไปตามนั้น เชื่อว่าประเด็นนี้จบแล้ว และจะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในพรรค
"ที่ส.ส.ออกมาแสดงความเห็นการทำงานสนธิรัตน์ เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่เมื่อวานนี้ ผมได้คุยกับคุณสนธิรัตน์ และเห็นแล้วว่าคุณสนธิรัตน์ได้ออกแถลงการณ์ตามนั้น ประเด็นนี้เชื่อว่าไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก คุณสนธิรัตน์เข้าใจ ประเด็นนี้จบแล้ว"นายอุตตมกล่าว
พร้อมย้ำว่า จากนี้จะเดินหน้าเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาล และทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเข้มแข็ง ยืนยันว่าแม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็เป็นธรรมชาติของพรรคการเมือง ที่สำคัญทุกคนยังรักกันดี และความไม่เข้าใจต่างๆ ได้ยุติแล้ว
"วันนี้อยากให้มองว่า แม้เราจะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง มีเสียงออกมาไปสู่สังคมบ้าง ต้องขออภัยอาจทำให้สับสน แต่สุดท้ายอยากให้เห็นว่า พลังประชารัฐ เรื่องที่เราถกกัน ถกได้ ถกแล้วจบ แล้วเดินหน้า นี่คือพรรคการเมืองในระบบประชาธิปไตย เรารับฟัง ส.ส.ที่มาจากตัวแทนประชาชน เรายึดมั่น ส.ส.ทุกท่านของเรา ต้องการทำงานให้ประชาชน เรายึดว่าทุกอย่างต้องเดินหน้า ไม่มีเงื่อนไข ถกแล้วจบ เดินเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาล ทำงานในสภาอย่างเข้มแข็ง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้เราเดินหน้า ทุกอย่างยุติ...สุดท้ายพวกเรามีความรักกัน เห็นแตกต่างมีได้ ถ้าไม่มี อาจไม่ใช่ธรรมชาติของพรรคการเมือง ที่สำคัญคือมีแล้วจบ จบแล้วเดินได้" นายอุตตมกล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ยืนยันว่า จะไม่มีการดำเนินการเรียกร้องให้ถอดถอนนายสนธิรัตน์ออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค หลังจากได้ทำความเข้าร่วมกันในเหตุผลต่างๆ แล้ว อีกทั้งได้มีการสื่อสารข้อมูลไปยังผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจให้ได้รับทราบแล้ว
"เราได้ทำความเข้าใจว่า ถ้าเราไม่หยุดในประเด็นนี้ จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่หลวง และเราควรหยุด จะไม่ดำเนินการอะไร คุยกับส.ส.แล้วว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะใกล้เวลาสำคัญที่นายกฯ จะตัดสินใจนำเสนอข้อมูลคนที่จะมาทำงานตำแหน่งทางการเมือง ท่านอนุชา ก็พอใจที่เสนอข้อมูลต่อผู้มีอำนาจให้รับทราบ ส่วนท่านเลขาธิการพรรคฯ ก็ได้แสดงน้ำใจออกมาเกินกว่าสิ่งที่เราได้พูดคุยกัน" นายสมศักดิ์กล่าว