รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุขอเวลาในการศึกษาข้อมูลที่จะนำมาใช้เป็นแนวทางจัดระบบสื่อ 1 เดือน โดยคาดว่าจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้ราวต้นเดือน มี.ค.นี้
"ราวต้นเดือนมีนาคม ไม่เกินนี้จะมีการแถลงให้พวกเราได้ทราบเลยว่าในส่วนของการบริหารงานด้านสื่อภาครัฐจะเดินหน้าอย่างไร จะมีตารางเวลาที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเมื่อไรจะมีคณะกรรมการศึกษา เมื่อไรจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสื่อ" นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
เบื้องต้นวางแผนให้มีการดำเนินการในรูปของคณะทำงาน เช่น บางกรณีอาจจะเป็นในรูปของคณะกรรมการเพื่อเสนอนโยบาย บางกรณีอาจจะเป็นคณะทำงานเพื่อการศึกษาในส่วนของความสมดุลหรือความเป็นธรรมในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงความเห็นก่อนที่จะนำไปสู่การตัดสินใจ
ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ"สนทนาประสาสมัคร"ว่าจะมีการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่นั้น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ
"อย่าลืมในช่วงเวลาที่ผ่านมาเรามีเผด็จการกันตั้งเป็นปีแต่เราก็ยังเคารพในกฎหมายนั้นกัน ฉะนั้นเมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจำเป็นที่เราต้องประเมินในช่วงเผด็จการทั้งหมดว่าได้มีการดำเนินการโดยอ้างคำว่ากฎหมายแต่ความจริงเป็นการใช้อำนาจรัฐที่เป็นเผด็จการหรือไม่ ซึ่งรวมถึงการเกิดขึ้นของสื่อในระหว่างนั้นด้วย" นายจักรภพ กล่าว
รัฐบาลยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของคนทั้งในและนอกวงการสื่อ เพราะทุกคนได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากมาย โดยแนวความคิดทั้งหมดยังต้องมีการศึกษาหารือ โดยเฉพาะการลงทุนตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นการลงทุนของรัฐ ซึ่งต้องมองหลายมิติมากกว่าจะนำไปสู่จุดนั้นในทางปฏิบัติ ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีคนไอทีวีถูกให้ออกโดยไม่เป็นธรรมก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะต้องไม่ลืมว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐไม่ใช่ความผิดของคนไอทีวี หากรัฐเปลี่ยนนโยบายแล้วทำให้คนตกงานรัฐก็ต้องช่วย คำถามคือการช่วยเหลือนั้นกระทำถูกต้องตามระบบหรือเปล่า ไม่ได้แปลว่าจะเข้าไปให้ความเป็นพิเศษกับคนไอทีวี
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธกระแสข่าวเซ็นคำสั่งปลดนายปราโมช รัฐวินิจ ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนการแต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีนั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ได้ทาบทามนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นที่ปรึกษาฯ และทาบทามนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน มาเป็นเลขานุการ
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับดูแลงานด้านสื่อของรัฐ ทั้งกรมประชาสัมพันธ์, บมจ.อสมท.(MCOT), และสถานีโทรทัศน์สาธารณะ(ไทยพีบีเอส)
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--