สภาผู้แทนราษฎรไม่รับญัตติของพรรคฝ่ายค้านทั้ง 3 ญัตติที่เสนอโดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย, นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้ตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไว้พิจารณาและบรรจุในระเบียบวาระการประชุม หลังจากที่ได้ทบทวนรายละเอียด 2 รอบ ด้วยการหารือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง กล่าวว่า ญัตติดังกล่าวถือไม่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณา โดยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ยื่นญัตติทั้ง 3 แล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าการพิจารณาดังกล่าวเป็นไปอย่างรอบคอบตามกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ไม่กังวลว่ากรณีไม่บรรจุญัตติดังกล่าวจะทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านนำไปโจมตีว่าเข้าข้าง หรือ ปกป้องฝ่ายใด
"ผมทำหน้าที่เป็นกรรมการ เหมือนกรรมการฟุตบอล หรือ กรรมการชกมวย ถือเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่ลงไปเป็นคู่ชก ดังนั้นญัตติที่ ส.ส.เสนอเข้าสู่การพิจารณาต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายและระเบียบที่เกียวข้อง หากเรื่องใดที่เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ และไม่ขัดกับกฎหมาย ต้องถูกพิจารณาและบรรจุในวาระประชุม"นายศุภชัย กล่าว
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ล่าสุดทางนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติด่วนเพื่อศึกษาแนวทางการได้มาซึ่ง ส.ว.ตนยังรอพิจารณาว่าสภาฯ จะบรรจุญัตติให้ได้หรือไม่ โดยมีระยะเวลาการรอคำตอบ 5 วันตามข้อบังคับการประชุม และหากสภาฯ ไม่บรรจุญัตติดังกล่าว ตนจะพิจารณาต่อแนวทางที่จะยื่นแจ้งความหรือยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ ต่อไป