นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องขอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งกรณีนี้จะเปรียบเทียบกับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ เพราะศาลเป็นผู้สั่ง เช่นเดียวกับกรณีที่ศาลรับคำร้อง 32 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วนการที่มีการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของนายธนาธรและเกิดข้อถกเถียงในสังคมนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่รู้จะไปเถียงกับใคร เพราะเรื่องนี้ได้ให้อำนาจกับศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญเองก็มีการวางหลักการเอาไว้แล้ว ดังนั้น ขอให้ไปดูกรณี 32 ส.ส ปมถือหุ้นสื่อฯ ซึ่งมีการวินิจฉัยไว้ชัดเจน ว่าไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะเหตุใด และกรณีของนายธนาธรให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะเหตุใด
ทั้งนี้ นายวิษณุ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องสองมาตรฐาน แต่เป็นเรื่องของหลักเกณฑ์ ดังนั้น กรณีนี้จะยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ก็ให้นำหลักเกณฑ์มาพิจารณา ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาปรึกษาอะไรกับตนเอง และเชื่อว่ากรณีนี้จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ คุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยระบุไว้แล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ม.82 หากศาลรัฐธรรมนูญมีเหตุอันควรให้สงสัย ก็จะสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากศาลไม่สงสัยก็จะรับเรื่องไว้พิจารณา โดยเจ้าตัวยังสามารถทำงานต่อไปได้ตามปกติ