พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่า ขอให้ทุกคนใจเย็นและรอการโปรดเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ จากนั้น ก็จะเป็นขั้นตอนการเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งคาดว่าไม่เกินช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ก็จะเสร็จสิ้น พร้อมกับยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ภายหลังพิธีการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณตนแล้ว จะนัดหารือกับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการปฐมนิเทศ เพื่อพบปะพูดคุยแนวทางการทำงานและนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา เพื่อให้มีความสอดคล้องกันทั้งหมด และจะนำนโยบายของทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านมาประกอบการพิจารณา ซึ่งบางอย่างได้ทำไปบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่ทุกพรรคไปหาเสียงกันมา เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วการดำเนินการต้องอยู่ในกรอบงบประมาณที่มีอยู่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี2563 ที่จะล่าช้าออกไปอีก 1 ไตรมาส เนื่องจากได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ว่าหน่วยงานต่างๆจะใช้งบฯของปี 62 ไปก่อนได้ และไม่กังวลว่า ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้มาตีรวน และหากใครคิดจะตีรวนก็ขอให้คิดให้ดี เพราะหากการพิจารณางบประมาณไม่ผ่าน การดำเนินโครงการต่างๆ ก็จะไม่สามารถทำได้ และขอให้ทุกคนคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ อย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฏิรูปทางการเมืองไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพและบุคลิกต่างๆ และอย่าใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรมาด้อยค่าและพยายามล้มรัฐบาล ซึ่งผลประโยชน์ของชาติและของประชาชนนั้นมีความสำคัญยิ่งกว่านั้น และถ้ายังเป็นอยู่เช่นนี้ ก็จะพัฒนาและปฏิรูปไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงท้ายว่า ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะชินแล้วในการทำงานมาตลอด 5 ปี ซึ่งการพัฒนาประเทศ ก็เดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง หากมีปัญหาในแง่ของกฎหมายก็ต้องแก้ไขกันไป สิ่งสำคัญคือคนไทยจะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ก็ต้องคำนึงถึงประเทศของเราด้วย และไม่อยากให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการภายในของเรา โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ และหากเป็นการพูดในสิ่งที่บิดเบือนต่างๆก็ทำให้ประเทศเสียหาย