พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ รมต.กลาโหม 10 ประเทศที่เดินทางมาร่สวมการประชุม ADMM ครั้งที่ 13 ว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับ และขอบคุณทุกประเทศสมาชิกอาเซียน และสำนักเลขาธิการอาเซียนที่สนับสนุนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมาจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และยินดีที่การประชุม ADMM ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรมแชงกรีลา ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมบทบาทเวที ADMM ที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง และหวังให้เป็นกลไกหลักในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการทหาร และเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับยุทธศาสตร์ในการร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือเพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน และขับเคลื่อนประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงของภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทุกประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องว่า ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างกระทรวงกลาโหมจะช่วยส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และความเป็นแกนกลางของอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้มีความเข้มแข็ง จัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงของภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในทุกมิติ
ในส่วนของมิติของความมั่นคงนั้น เราจะร่วมกันเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ รวมทั้งสามารถจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่สำคัญของภูมิภาค เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มีพลวัตและยั่งยืนควบคู่ไปกับการมีเสถียรภาพทางสังคม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาภายในภูมิภาคไม่สามารถดำเนินการได้โดยประเทศเดียว แต่ต้องร่วมมือกันภายใต้กฎบัตรอาเซียน ซึ่งจะทำให้อาเซียนสามารถเจรจาต่อรองในเวทีโลก ด้วยการใช้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ (one voice) เช่นในประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมายฯ (IUU) ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่มีผลกระทบด้านความมั่นคงต่อประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาชนอาเซียนด้วย โดยสำนักงานเลขาธิการอาเซียนจะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทุกประเทศเข้าด้วยกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะประธานอาเซียน ไทยมุ่งมั่นเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ สามารถจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคที่สำคัญ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มีพลวัตและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมีเสถียรภาพทางสังคม
ขณะที่ รมต.กลาโหมของกัมพูชา ในฐานะตัวแทน รมต.กลาโหมอาเซียน ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ADMM ในครั้งนี้ โดยทุกประเทศสมาชิกพร้อมกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากประเด็นด้านความมั่นคงถือเป็นมิติที่สำคัญและเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว