พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่มีนักการเมืองบางพรรคเดินสายพบปะกับนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู)ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทุ่มเทความพยายามอย่างรอบคอบในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ยึดถือหลักการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญจนทำให้ต่างประเทศเข้าใจและยอมรับประเทศไทยมากขึ้น และมิตรประเทศรวมถึงอียูก็มีท่าทีที่เป็นบวกต่อไทย สังเกตได้จากการประชุมผู้นำ G20 ครั้งที่ผ่านมาผู้นำรัฐบาลหลายประเทศแสดงมั่นใจ ความกระตือรือร้น และพร้อมจะร่วมมือกับประเทศไทยในทุกมิติโดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน การมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียม ทุกอย่างกำลังก้าวหน้าไปด้วยดี ดังนั้นจึงอยากขอร้องว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตามอย่าใช้ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลและข้าราชการทุกหน่วยงานต่างทุ่มเทกำลังกายและสติปัญญาทำงานอย่างหนักในการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับอียู ซึ่งการเจรจาอยู่บนพื้นฐานหลักการสากลและกำลังมีแนวโนมที่ดี ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็จะส่งผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยสามารถฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ที่กำลังเป็นความท้าทายของโลกอยู่ในปัจจุบันไปได้ แต่ถ้าหากเกิดความเสียหายขึ้นในทางลบโดยมีสาเหตุมาจากความเคลื่อนไหวข้างต้น บุคคลเหล่านั้นจะรับผิดชอบได้หรือไม่
"น่าเป็นห่วงผลพวงที่จะเกิดขึ้นจากการเดินสายครั้งนี้อาจส่งผลลบต่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ แม้จะอ้างว่าไปแลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจการเมืองโลก และแสวงหาความร่วมมือในอนาคตระหว่างไทยกับอียู" พล.ท.วีรชน กล่าว