นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการประชุมรัฐสภา ซึ่งจะมีการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีก่อนเริ่มทำหน้าที่ว่า จากการร่วมประชุมกับวิปฝ่ายค้าน ในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลได้มีการแบ่งเวลาตามสัดส่วนโควตา ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้มาทั้งหมด 13 ชั่วโมงครึ่ง
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่จะได้เวลา 266 นาที หรือ 4 ชั่วโมง 26 นาที โดยเตรียมผู้ที่อภิปรายไว้ 18 คน อาทิ ตน ได้เตรียมอภิปรายเรื่องประชาธิปไตย การต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงสิทธิมนุษยชน, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อภิปรายเกี่ยวกับเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อภิปรายเรื่องเกษตร การประกันรายได้ของเกษตรกรและปัญหาที่ดินทำกิน, พล.ท.พงศกร รอดชมภู อภิปรายเรื่องกองทัพ ความมั่นคง และ 3 จังหวัดชายแดนใต้, น.ส.วรรณิภา ไม้สน ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนแรงงานและเป็นตัวแทนของแรงงานตัวจริงนั้น จะอภิปรายเรื่องแรงงานและสวัสดิการต่างๆ, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล อภิปรายนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล นอกจากนี้ ยังเตรียมการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายสิ่งแวดล้อม นโยบายพลังงานด้วย
สำหรับคำแถลงของคณะรัฐมนตรี จากเอกสารที่ได้รับมา พอสรุปได้ว่าเป็นนโยบายที่นำเสนอแต่เรื่องที่ดี แต่กว้างมากๆ ไม่ลงรายละเอียด และเป็นนโยบายที่มีส่วนที่มาจากการผสมของกลุ่มก๊วนพรรคการเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตาม ก็ยังพอมีนโยบายที่เห็นว่าเป็นเรื่องดี อาทิ การต้านทุนผูกขาด สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้วในขั้นตอนการปฏิบัติจริงจะสามารถนำไปทำได้หรือไม่
"ในการอภิปราย เราจะเน้นไปที่เนื้อหามากกว่าตัวบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ในกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 5 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไว้บ้าง วันนี้จะเปลี่ยนมาใส่สูทเข้าสภา จึงปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะไม่ถูกพูดถึง นอกจากนี้ ในคำแถลงดังกล่าว นโยบายชุดนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องเม็ดเงิน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย ทั้งที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้กำหนดไว้ แต่ ครม.ชุดนี้ซึ่งเป็นชุดแรกภายใต้รัฐธรรมนูญดังกล่าว กลับไม่แจกแจงตัวเลขเอาไว้อย่างละเอียด ซึ่งในส่วนนี้ คุณศิริกัญญาก็เตรียมจะชี้แจงให้ดูว่า นโยบายที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร เขียนอย่างไร" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า เรื่องประชาธิปไตย การแก้รัฐธรรมนูญที่มีการเขียนไว้ในคำแถลงของคณะรัฐมนตรี จากเอกสารที่ได้รับมา แม้จะระบุว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ก็พบว่าเรื่องนี้มีเขียนอยู่เพียง 2 บรรทัดกว่า และเขียนไว้แบบไม่ผูกมัดตัวเองเท่าไร ระบุเพียงกว้างๆ ว่าสนับสนุนให้มีการศึกษา ไม่ระบุชัดว่าการแก้รัฐธรรมนูญนั้นมีความจำเป็นอย่างไร ควรต้องผลักดันให้เข้มข้นกว่านี้
สำหรับการแก้รัฐธรรมนูญของพรรคอนาคตใหม่ที่ได้มีการเผยแพร่ร่างแก้ไขไปแล้วนั้น เชื่อว่า สิ่งที่เตรียมผลักดัน สุดท้ายคือแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ในช่วงเร่งด่วนที่ทำได้เลย นั่นคือการแก้ในเรื่องวุฒิสภา ตามบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และยกเลิกมาตราสุดท้าย เรื่องการรับรองให้บรรดาประกาศคำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
"ขณะนี้พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส. 81 คน ต้องการชวนเพื่อนสมาชิกร่วมลงชื่อสนับสนุนให้ได้เกิน 100 คน เพื่อเสนอร่างแก้ไขนี้ สุดท้ายแม้จะไม่สำเร็จในการแก้ไข แต่ก็ทำให้ประชาชนได้รู้ว่าเราอภิปรายเรื่องนี้กันอย่างไร สมาชิกรัฐสภาคนใดสนับสนุนให้มีการแก้ไข คนไหนไม่สนับสนุน" เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ระบุ