นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าเปรียบเสมือนนโยบาย "หน้าไม้ ยิงดิน" กล่าวคือ นโยบายที่เลื่อนลอย ขาดการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งทำให้ยากแก่การที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบและวัดประสิทธิผลในการดำเนินนโยบายแต่ละด้านของรัฐบาล ทั้งนโยบายหลัก 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วนทั้ง 12 ข้อ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อระดับเจ้าหน้าที่และข้าราชการที่จะต้องนำนโยบายไปปฏิบัติ เนื่องจากขาดความชัดเจนทั้งในเชิงของรายละเอียดของนโยบายและเป้าหมาย
"เปรียบเหมือนเป็นนโยบายหน้าไม้ยิงดิน ยิงลงไปตรงไหนก็ถูก ปักดินแน่นอนไม่มีพลาดเป้า ยกเว้นว่าโชคไม่ดี ลูกศรไปปักมะกอกป่า ไม่ถูกดิน ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก นโยบายที่เขียนไว้มีหมด แต่ไม่ชัดเจนคือเรื่องเป้าหมาย แล้วพวกผมจะตรวจสอบได้อย่างไร การเขียนนโยบายแบบนี้ จะขัดกับหลักธรรมาภิบาลได้" นพ.ชลน่านกล่าว
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังยกตัวอย่างการเขียนนโยบายในส่วนของการดูแลสวัสดิการประชาชน ซึ่งไม่มีความชัดเจนถึงที่มาของแหล่งรายได้ที่จะนำไปใช้ในการดำเนินนโยบายดังกล่าวว่าจะนำมาจากแหล่งใด อย่างไรก็ดี เห็นว่ายังมีเวลาอีก 2 วัน ที่รัฐบาลจะทำคำชี้แจงรายละเอียดประกอบการดำเนินนโยบายในแต่ละด้านมาให้ทางฝ่ายค้านได้รับทราบ
พร้อมกันนั้น นพ.ชลน่าน ยังได้อภิปรายถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีของนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง โดยฝากถามไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากนายอุตตม มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับคดีความการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งแม้คดีจะจบไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิด ดังนั้นจึงต้องการให้นายอุตตม ในฐานะที่เป็นอดีตกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยในขณะนั้น ได้ออกมาชี้แจงที่มาที่ไปของคดีนี้แก่สังคม
"อยากให้ท่านอุตตมชี้แจงที่มาที่ไป ว่าทำไมลงชื่อด้วยกัน 5 คน แต่ติดคุก 3 คน อีก 2 คนคือท่านรอด คุณชัยณรงค์รอด เราให้โอกาสท่านชี้แจง เพราะเราต้องการรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติไม่ด่างพร้อย" นพ.ชลน่าน กล่าว
จากนั้น นายอุตตม ลุกขึ้นชี้แจงโดยใช้เวลาเพียงสั้นๆ โดยระบุว่า กรณีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยแก่เครือกฤษฏามหานครในสมัยนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.58 และมีผู้ได้รับโทษในคดีนี้ 25 คน
ทั้งนี้ รู้สึกเศร้าใจที่มีขบวนการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนั้น และหยิบยกมาบิดเบือนสร้างความเสียหายและคลางแคลงต่อความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ในปัจจบุน
"ผมยินดีที่จะให้ตรวจสอบ แต่คนที่ไม่ผิดมาตั้งแต่เดิม แล้ววันนี้จะมาหาเหตุว่าผิด มันจะเป็นไปได้อย่างไร" นายอุตตมกล่าว
พร้อมระบุว่า จะขอใช้เวลาของรัฐสภาเพื่อชี้แจงกรณีนี้ในโอกาสต่อไป