นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า นโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ ส่วนตัวมองว่ามีความครบถ้วนในเกือบทุกประเด็นที่มีความสำคัญต่อการแก้ปัญหาของประชาชน แต่สาเหตุที่ประชาชนมีความกังวลเป็นเพราะอำนาจตามกฎหมายของนายกรัฐมนตรีน้อยลงเมื่อเทียบกับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และนอกจากนี้ รัฐบาลนี้ยังเป็นรัฐบาลผสม เป็นการผสมผสานระหว่าง 19 พรรคการเมือง มีแนวคิดที่แตกต่างกัน และวิธีการทำงานที่อาจจะไม่คุ้นเคยซึ่งกันและกัน จึงเป็นความสำคัญของรัฐบาลที่จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและกำหนดผลลัพธ์ที่ชัดเจนของแต่ละนโยบาย รัฐบาลคาดหวังว่าแต่ละนโยบายจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประชาชนจับต้องได้และที่สำคัญที่สุดคือวัดผลได้
นอกจากนี้ เพียงแค่กำหนดนโยบายอาจจะไม่เพียงพอ แต่สิ่งที่รัฐบาลอาจจะต้องมีเพิ่มเติมคือ แนวทางในการนำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีการพัฒนา ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ระดับสูง
รัฐบาลจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดผลลัพธ์ที่ชัดเจน วัดผลได้อย่างไร สิ่งที่รัฐบาลต้องมีเพิ่มเติมคือวิสัยทัศน์ หรือแนวทางที่นายกฯ ได้กำหนดเป้าหมายต้องการใช้นโยบายชุดนี้นำประเทศไทยไปสู่ประเทศที่พัฒนา เป็นประเทศที่มีรายได้ระดับสูง เป็นเป้าหมายที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ยังอาจจะขาดไปคือเส้นทางการเดินไปสู่เป้าหมายนั้นจะเดินไปอย่างไร
"สิ่งที่ผมคิดว่ายังขาดไปคือการกำหนดว่าเส้นทางในการเดินไปสู่เป้าหมายนั้นประเทศไทยควรจะเดินไปในเส้นทางใด ถ้าเรามาดูประเทศที่ประสบความสำเร็จในภูมิภาคนี้ ได้แก่ สิงคโปร์ ซึ่งไม่ได้ทำทุกเรื่อง เพียงแค่กำหนดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการเงิน ถ้าเราดูจีน เติ้งเสี่ยวผิงเพียงแค่กำหนดว่า จีนจะพึ่งพาระบบเศรษฐกิจการตลาด เกาหลีใต้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 มีการพิจารณาว่าอุปสรรคต่อการพัฒนาภาคเอกชนและบทบาทของประชาชน คือรัฐบาล ภาครัฐ ราชการและกฎหมายที่มีความล้าสมัย จึงมีการเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงปฏิรูประบบกฎหมายทำให้จำนวนกฎหมายลดลง ทำให้รัฐและประชาชนมีความคล่องตัวมากขึ้น"
สำหรับประเทศไทย สาเหตุของความสำเร็จในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาพื้นที่ซีกตะวันออก การลงทุนจากต่างประเทศมีผลอย่างมากในการทำให้รายได้ของคนไทยในช่วง 10 ปีเพิ่มขึ้น 3 เท่าในอัตราการขยายตัว
สุดท้ายเรื่องสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานทุกๆอย่างที่เราทำให้มีความเป็นพรีเมี่ยม ทั้งคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย มาตรฐานการรักษาพยาบาล ภาคการเกษตรที่เกษตรกรมีผลผลิตที่มีคุณภาพชั้นนำของโลกและเข้าสู่ตลาดด้วยตนเองได้ในราคาที่เป็นธรรม เรื่องอาหารภาคอุตสาหกรรมทีหยุดได้แล้วในการที่เป็น OEM แต่ควรมีนวัตกรรมที่นำไปสู่การพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานในระดับโลก
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า การที่ประเทศไทยจะไปสู่จุดที่เป็นพรีเมี่ยมทุกเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์ เคยกำหนดกรอบนโยบายเอาไว้ที่เรียกว่า นโยบาย"แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" ซึ่งนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภาในวันนี้มีความครบถ้วน และต้องเตรียมตัวเพื่อให้คนไทยสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีซึ่งนักวิชาการประเมินว่าจะมีผลต่องานที่คนไทยทำในปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นการเดินหน้าไปสู่การแก้ปัญหาความยากจน ยังคงเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ทั้งในส่วนโครงการเกษตรด้วยเรื่องการประกันรายได้ การแก้ปัญหาหนี้สิน รวมไปถึงการแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน
ทั้งนี้ รัฐบาลไม่มองข้ามประเด็นปัญหาของประชาชนในกลุ่มชนชั้นกลาง พรรคร่วมรัฐบาลอย่างน้อย 2 พรรค มีนโยบายที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนว่าจะดูแลให้ภาระภาษีมีความเป็นธรรม
ส่วนเรื่องการสร้างชาติ การสร้างคน ขอให้กำหนดนโยบายที่วัดได้ จับต้องได้ให้ชัดเจน ให้เด็กไทยทุกคนพูดภาษาได้อย่างน้อย 2 ภาษา ถ้าทำให้ประสบความสำเร็จอย่างไรก็คือการปฏิรูปอยู่แล้ว เพราะต้องเปลี่ยนคุณภาพการเรียน การสอน การสอบนั่นคือนำไปสู่การปฏิรูปด้วยการนำนโยบายที่จับต้องได้และวัดได้โดยประชาชน
"ถ้ารัฐบาลทำได้ ผมมั่นใจว่าปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ ปัญหาความยากจนของประชาชนจะคลี่คลายลงตามความตั้งใจของท่านนายกรัฐมนตรี"นายกรณ์ กล่าว