พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดแรกว่า ได้กำชับการทำงานของคณะรัฐมนตรีในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของกฎหมายที่มีพระราชบัญญัติใหม่ๆ การจัดทำงบประมาณรายจ่าย รวมถึงการชี้แจงในเรื่องต่างๆจากคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
ส่วนการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อกฎหมายระบุให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนเรื่องของการประเมินผลการทำงานของรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีขั้นตอนในการดำเนินการ โดยการนำนโยบายสู่ขั้นตอนการปฏิบัติและการจัดทำแผนงานโครงการ ซึ่งจะมีคณะกรรมการเข้าตรวจสอบประเมินผลในทุกโครงการ และได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่า ต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด
สำหรับการให้คะแนนต่อการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณาและให้คะแนน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดก็เป็นไปตามที่ตนเองได้ชี้แจงไปแล้ว ในส่วนของตนเองก็มีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก
ส่วนข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภานั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ตัวเลขและข้อมูลต่างๆได้จากส่วนราชการ โดยยอมรับว่าตัวเลขของเศรษฐกิจมหภาคเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นตัวเลขที่ดีพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ แต่เศรษฐกิจจุลภาคหรือเศรษฐกิจระดับล่างได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการในการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด โดยต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา และแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตรงกับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้หลายเรื่องที่ได้ชี้แจงไปในสภาฯ ตนเองไม่ขอมาวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้ ขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อเท็จจริง และขอให้ทุกคนระมัดระวังข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนต่างๆ เพราะคำพูดของตนเองก็ถูกนำมาบิดเบือน เช่น การพูดถึงการเสียภาษี ที่ตนเองยืนยันไม่เคยดูถูกว่า คนจนไม่เสียภาษี แต่เพียงอธิบายว่า ภาษีมีกี่ประเภท โดยผู้มีรายได้น้อยแม้ไม่เสียภาษีเงินได้ แต่ก็ต้องเสียภาษีในรูปแบบอื่น
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือการสมัครเป็นสมาชิกพรรค หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว โดยกล่าวสั้นๆ ว่า ตนเองจะเป็นอะไรเมื่อไหร่นั้น ก็ขอให้ตนเองได้ตัดสินใจเอง