นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เผยเตรียมเดินทางไปเยือนกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนตามธรรมเนียมปฏิบัติในโอกาสที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยจะเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวชายแดนติดต่อกันก่อน
"เป็นการมาศึกษาเรื่องภายในที่เป็นประโยชน์ในการออกไปเยือนต่างประเทศ...วันนี้มาอบรมบ่มนิสัยการเป็นนายกฯที่ต้องระมัดระวังเวลาไปเยือนต่างประเทศ" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้หารือเรื่องปัญหาตามแนวชายแดน เพราะถือเป็นหน้าที่ของตำรวจและทหารที่จะดูแลอยู่แล้ว ส่วนกรณีปราสาทเขาพระวิหารนั้นทางการไทยและกัมพูชาได้เริ่มการเจรจากันบ้างแล้ว โดยมีองค์การยูเนสโกเข้ามาช่วยเหลือ
ด้าน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้แจ้งตารางการเดินทางไปร่วมประชุมในต่างประเทศตลอดทั้งปีให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนเป็นประเทศแรกน่าจะเป็นลาว โดยคาดว่าจะมีกำหนดการเดินทางไปเยือนในช่วงปลายเดือน ก.พ.หรือต้นเดือน มี.ค.นี้
รมว.ต่างประเทศ ยังยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความร่วมมือในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย แม้ขณะนี้จะอยู่ในช่วงที่มาเลเซียประกาศยุบสภา
"นโยบายต่างประเทศของไทยและมาเลเซียจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นนโยบายที่ช่วยกันแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป" นายนพดล กล่าว
สำหรับตนเองมีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่ประเทศสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 19-20 ก.พ.นี้ ซึ่งในโอกาสนี้จะได้หารือทวิภาคีกับ รมต.ต่างประเทศของลาว, กัมพูชา, พม่า และมาเลเซีย เพื่อเตรียมการเกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนประเทศเหล่านั้นของนายกรัฐมนตรี
รมว.ต่างประเทศ ยังปฏิเสธว่า ช่วงเวลาที่เดินทางไปสิงคโปร์คงไม่ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่ากว่าจะถึงเวลานั้นอดีตนายกรัฐมนตรีคงเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศอื่นแล้ว
ส่วนกรณีปัญหาปราสาทเขาพระวิหารนั้น นายนพดล กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีโอกาสได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่รักษาดินแดนและรักษาอธิปไตยของชาติผ่านช่องทางทางการทูต และมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--