นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด EEC ได้มีมติเห็นชอบแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน แผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค หรือการจัดทำผังเมือง EEC ไปเมื่อการประชุมวันที่ 5 ส.ค.62 ท่ามกลางการคัดค้านของเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกนั้น
แม้เรื่องดังกล่าว ภาคประชาชนและนักวิชาการส่วนใหญ่จะยืนยันว่าการจัดทำแผนผังการพัฒนานั้นยังคงมีปัญหา และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีความหมาย ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมย์ที่เขียนไว้ใน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 หรือ พ.ร.บ. EEC ที่ว่า "ให้คำนึงถึงความสัมพันธ์กับชุมชน สุขภาวะของประชาชน สภาพแวดล้อม และระบบนิเวศตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน" รวมทั้งเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 72(1) ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า "การวางแผนการใช้ที่ดินต้องให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ และศักยภาพของที่ดินตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน"
ทั้งนี้ จากเอกสารแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน หรือผังเมืองรวม EEC ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออกนำมาเผยแพร่นั้น ปรากฎโดยชัดแจ้งว่าจะมีการเพิ่มพื้นที่สีม่วง (พื้นที่อุตสาหกรรม) จาก 3% เป็น 5% ซึ่งกระทบต่อพื้นที่สีเขียว (เกษตรกรรม) ในเขต จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญเป็นการเพิ่มพื้นที่สีม่วงในพื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่สีเขียว แต่มีนายทุนใหญ่ไปกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านมาในราคาถูกมาดักรอให้ประกาศเป็นพื้นที่สีม่วง อันเป็นการเอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนดังกล่าวโดยชัดแจ้ง จนชาวบ้านไม่อาจยอมรับได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำเป็นที่จะต้องนำความไปยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ด EEC เพื่อตั้งประเด็นพิพาททางปกครองไว้ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งกรรมการสอบเลขาธิการ EEC และอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และขอให้มีการทบทวนการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และหรือผังเมือง EEC เสียใหม่ให้อยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามข้อเรียกร้องอย่างแท้จริง และหากนายกรัฐมนตรีเพิกเฉย จะได้ใช้เป็นเหตุแห่งการนำคดีขึ้นฟ้องต่อศาลปกครองได้ต่อไป
"สมาคมฯ และชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก จะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสที่ 8 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน (ตึก กพร.เดิม) ทำเนียบรัฐบาล" นายศรีสุวรรณกล่าว