นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมของ 7 พรรคฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าจะรณรงค์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยหลักการสำคัญคือ จะต้องผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนจะมีจำนวนกี่คนนั้นจะมีการลงพื้นที่ไปทำงานร่วมกับนักวิชาการ สื่อ ภาคประชาสังคม เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะออกมาใหม่เป็นร่างกลางที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน โดยให้ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ จากนั้นจะไปให้ประชาชนร่วมลงประชามติ
ทั้งนี้ จะตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้ง 7 พรรคเพื่อมาดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ในขณะเดียวกันในแต่ละพรรคก็สามารถรณรงค์ในส่วนที่ตนเองถนัดได้ ภายใต้แคมเปญ"ทวงคืนอำนาจ การจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชน"
"วันนี้สังคมเริ่มเห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญปี 60 จะนำไปสู่ทางตัน ซึ่งจะต้องทำรัฐธรรมนูญที่สุดท้ายแล้วเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่เป็นเพียงเฉพาะรัฐธรรมนูญของ 7 พรรคการเมือง"นายปิยบุตร กล่าว
ส่วนการโหวตชนะฝ่ายรัฐบาลในประชุมสภาเมื่อวานนี้ นายปิยบุตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าคะแนนมาจากไหน คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคะแนนก่อน แต่หากเป็นไปตามกระแสว่าพรรคเล็กจะออกจากการร่วมรัฐบาลจริง ก็จะทำให้คะแนนคู่คี่ สูสี ทั้งนี้ที่ผลออกมาแบบนี้ไม่ใช่การชิงไหวชิงพริบกันแต่อย่างใด แต่เรื่องนี้เป็นดอกผลของรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ออกแบบมา เสียงของรัฐบาลจะปริ่มน้ำแบบนี้อยู่ตลอดเวลา
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องของนิติบัญญัติไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถทำงานแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนได้
นายภูมิธรรม เวชยยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบข้อซักถามถึงการชักชวนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศีวิไลย์ มาร่วมกันอย่างจริงจังว่า ในระบบรัฐสภาเราหวังความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง โดยเรามองประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและปัญหาของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
"รัฐรรมนูญฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาดังนั้นจึงควรร่วมมือกันทำให้เกิดเป็นฉันทามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญแล้วทำให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข เราจะร่วมมือกับทุกฝ่าย...อะไรที่ร่วมมือกันแล้วทำให้ประเทศชาติดีขึ้นก็ควรจะร่วมมือกัน อยากเห็นผลสัมฤทธิ์ของการแก้ปัญหามากกว่าดึงเล่นเกมการเมืองกัน"นายภูมิธรรม กล่าว