ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ในคดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2555 คดีหมายเลขแดง อม. 55/2558 ที่นายทักษิณตกเป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 27 คน เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ยักยอก ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ชั้นยกคดีขึ้นพิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 1) กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับเครือกฤษดามหานครโดยทุจริต
คดีนี้นายทักษิณหลบหนีหมายจับและศาลจำหน่ายคดีเฉพาะนายทักษิณจากสารบบความชั่วคราว ต่อมามีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีอำนาจพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ศาลจึงให้ยกคดีเฉพาะขึ้นมาพิจารณาต่อไป ซึ่งนายทักษิณแต่งตั้งทนายความมาดำเนินการแทน
คำวินิจฉัยในสาระสำคัญ ระบุว่า จากการไต่สวนแม้นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ จะระบุว่าได้รับโทรศัพท์จากจำเลยที่ 2 แจ้งว่า"ซุปเปอร์บอส"ตกลงแล้วและขอให้พิจารณาไปโดยเร็ว ซึ่งคำว่า "ซุปเปอร์บอส"น่าจะหมายถึงนายทักษิณ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะเกิดเหตุ แต่การเบิกความเกี่ยวกับคำว่า "ซุปเปอร์บอส" หรือ "บิ๊กบอส" เป็นเพียงการคาดเดาไปตามความเข้าใจของนายชัยณรงค์เอง ซึ่งนายชัยณรงค์ไม่เคยรู้จักกับนายทักษิณเป็นการส่วนตัว เพียงแต่อ้างว่าจำเลยที่ 2 โทรศัพท์มาบอกเท่านั้น
ส่วนพยานปากนายอุตตมก็ได้ความเพียงว่าก่อนการประชุมนายชัยณรงค์สอบถามที่หน้าห้องประชุมเพียงว่า จำเลยที่ 2 ได้โทรศัพท์มาถึงนายอุตตมหรือไม่ นายอุตตมตอบว่าไม่ได้โทรมา การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เครือกฤษดามหานคร ในส่วนของนายอุตตมจึงมิได้เกิดจากจำเลยที่ 2 โน้มน้าวให้อนุมัติเพราะได้รับคำสั่งจากนายทักษิณ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์นายทักษิณ