รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีคณะรัฐมนตรีของไทยและสาธารณรัฐเกาหลี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้าร่วม
โดยจะเป็นการลงนามในบันทึกความเข้าใจและความตกลงระหว่างภาครัฐจำนวน 6 ฉบับ ได้แก่
1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐเกาหลี บันทึกความเข้าใจนี้จะสนับสนุนความร่วมมือกันในสาขาการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยคำนึงถึงการมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในด้านต่าง ๆ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นางคัง คยอง-ฮวา รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นผู้ลงนาม
2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลีระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐเกาหลี บันทึกความเข้าใจนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลีสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของไทย โดยมีรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ น.ส.ยู อึน-ฮเย รมว.ศึกษาธิการ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นผู้ลงนาม
3.ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการคุ้มครองข่าวสารทางทหารที่มีชั้นความลับร่วมกัน ความตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างไทยและเกาหลีใต้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางทหารระหว่างกัน ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขสำหรับการคุ้มครองข่าวสารที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ นางคัง คยอง-ฮวา รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นผู้ลงนาม
4.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อจัดทำความร่วมมืออุตสาหกรรม 4.0 บันทึกความเข้าใจนี้เป็นการยกระดับความร่วมมือในอุตสาหกรรมเป้าหมาย การส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และนางยู มยอง-ฮึ รมว.การค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน สาธารณรัฐเกาหลี เป็นผู้ลงนาม
5.ความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ความตกลงนี้เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการขนส่งทางรางของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ความตกลงฯ มีอายุ 2 ปี และต่ออายุได้อีก 2 ปี ตามความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายอี อุก-ฮ็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม
6.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระหว่างกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งของสาธารณรัฐเกาหลี บันทึกความเข้าใจนี้จะช่วยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนนโยบาย เทคโนโลยี ข้อมูลและทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่ผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายอี อุก-ฮ็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม
สำหรับการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ได้เปิดศักราชความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ไทย-เกาหลีใต้ กระชับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ถือเป็นการต่อยอดจากพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และพัฒนาความร่วมมือให้มีผลเป็นรูปธรรมทั้งในกรอบทวิภาคี อนุภูมิภาค และภูมิภาค
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเยือนไทยของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นนิมิตหมายอันดีในการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม เพื่อตอบสนองเป้าหมายและนโยบายของทั้งสองประเทศ รวมทั้งส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
ทั้งนี้ได้หารือถึงการขยายความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน และผลกระทบของสงครามการค้า จึงควรเพิ่มการลงทุนระหว่างกันในภูมิภาคให้มากขึ้น ควบคู่กับการผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (RCEP) ให้บรรลุข้อสรุปภายในปีนี้ พร้อมเชิญชวนให้ภาคเอกชนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ โดยได้เสนอให้ EEC และสำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนเกาหลี (KOTRA) พิจารณาจัดทำกรอบความร่วมมือระหว่างกันเพื่อรองรับการลงทุนของเกาหลีใต้ และไทยยินดีที่เกาหลีใต้สนใจลงทุนในโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ด้านความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคงและการทหาร ทั้งสองประเทศเห็นชอบเพิ่มปฏิสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงมากขึ้น และพัฒนากลไกหารือทวิภาคีทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และยินดีกับการลงนามความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีชั้นความลับร่วมกัน ซึ่งสะท้อนถึงความไว้เนื้อเชื้อใจระหว่างสองฝ่าย
นอกจากนี้ยังเห็นพ้องต่อยอดความร่วมมือด้านการจัดตั้งศูนย์ศึกษาเกาหลีในไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยและเตรียมความรองรับธุรกิจการค้าการลงทุนจากเกาหลีใต้ในอนาคต
สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้นั้น ได้ย้ำกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนให้เดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไทยพร้อมที่จะร่วมมือแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยินดีที่จะเป็นประธานร่วมกับเกาหลีใต้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่นครปูซาน นอกจากนี้ยินดีที่เกาหลีใต้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS และไทยพร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้รุดหน้าก้าวไกลต่อไป
ด้านนายมุน แช อิน กล่าวคำทักทายเป็นภาษาไทยว่า สวัสดีครับ พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทย และคนไทยที่เชิญตนเองมาในฐานะอาคันตุกะผู้นำต่างประเทศคนแรกของรัฐบาลชุดใหม่นี้ โดยตนเองมีความรักและสนใจต่อภูมิภาคเอเชียอาคเนย์เป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อได้ดำรงตำแหน่งแล้วจึงได้ส่งทูตพิเศษมายังอาเซียนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และสัญญาจะเดินทางเยือนประเทศอาเซียนให้ครบ 10 ประเทศ ในตลอดวาระการดำรงตำแหน่งของตนเอง ทั้งนี้การเยือนประเทศไทยครั้งนี้จึงถือมีความหมายมาก เพราะได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้
ส่วนการเจรจาวันนี้ ทั้งสองผู้นำประเทศเห็นพ้องต้องกันมุ่งสู่อนาคตแห่งสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพิ่มพูนหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ เช่น การพัฒนาเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับการวิจัย การพัฒนาสตาร์ทอัพ และเศรษฐกิจดิจิทัล ตกลงกันว่าจะเตรียมพร้อมรองรับยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศตกลงกันว่า จะกระชับความร่วมมือเพื่อสันติภาพ และความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงเอเชียตะวันออก และโลก ทั้งนี้ยินดีที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงรักษาข้อมูลทางทหารร่วม ซึ่งจะทำให้ยกระดับความร่วมมือ ด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อความแข็งแกร่ง
พร้อมกันนี้ตนเองได้แสดงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ต่อการสร้างเศรษฐกิจเชิงสันติภาพผ่านการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่จะไปสู่ผาสุกของเอเชียตะวันออก ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็ให้การสนับสนุนนโยบายมุ่งใต้แบบใหม่ของเกาหลีอย่างหนักแน่น โดยจะร่วมมือกันจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ และการประชุมระดับผู้นำแม่โขง สหรัฐ เกาหลี ครั้งที่ 1 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างอาเซียนเกาหลี บุกเบิกแนวทางใหม่ในการร่วมมือ และหวังว่าจะได้พบกันที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีในปลายปีนี้