นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยไม่ต้องลงมติ ตามมาตรา 152 ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางวิปรัฐบาลว่าจะให้เปิดอภิปรายได้ในวันที่เท่าไร และยังไม่เห็นว่าการบรรจุในระเบียบวาระการประชุมของสภาฯ
ทั้งนี้ วิปทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือกันในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.) และที่สำคัญต้องรอดูความพร้อมของรัฐบาลที่จะจัดสรรเวลามาตอบ เพราะขณะนี้เหลือเวลาเพียง 2 สัปดาห์ก่อนจะปิดสมัยการประชุม
ก่อนหน้านี้คาดว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 6 ก.ย. และกำหนดเป็นวาระพิเศษ แต่ส่วนตัวเห็นว่าวันที่เหมาะสมคือ 11-12 ก.ย. โดยใช้เวลาของวาระการประชุมสภาฯ ปกติ
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่จะเป็นสาเหตุให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบได้หรือไม่นั้น ตนมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน การอ้างภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นคนละส่วนกับงานในสภาฯ
"ไม่ใช่ว่าน้ำท่วมจะไม่สำคัญ หรือไม่เป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน แต่การทำงานในสภาฯ ก็ควรต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสม และส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากจะมีการประชุมลับ เพราะพรรคเพื่อไทยรู้ถึงความเหมาะสมในการอภิปรายของเนื้อหาที่จะไม่พูดก้าวล่วงไปถึงสถาบันอย่างแน่นอน" นพ.ชลน่านกล่าว
ส่วนการจัดสรรสัดส่วนกรรมาธิการสามัญ 35 คณะของสภาฯ นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เท่าที่ได้หารือกันเบื้องต้น พรรคเพื่อไทยจะได้ประธานกรรมาธิการ 10 คณะ, พรรคพลังประชารัฐ 8 คณะ, พรรคอนาคตใหม่ 6 คณะ, พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ พรรคละ 4 คณะ ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นพรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ จะได้พรรคละ 1 คณะ ซึ่งในการเลือกกรรมาธิการจะใช้วิธีการจับฉลากเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา