นายกฯ พอใจ 2 โครงการต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต วปอ.สอดคล้องนโยบายรัฐบาล

ข่าวการเมือง Thursday September 5, 2019 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานให้ข้อคิดเห็นในการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 61 ได้นำเสนอเศรษฐกิจสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ผ่านโครงการต้นแบบ 2 โครงการด้วยกันคือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร พร้อมสะท้อนถึงแผนการพัฒนาประเทศผ่านโครงสร้างและการบริหารภาครัฐ ที่สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลง ตามโมเดลไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนทุกกลุ่ม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ควบคู่กับการพัฒนาทุนมนุษย์ ให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล และ อุตสาหกรรม 4.0 อย่างสมดุลเท่าเทียม ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาที่ยั่งยืน และคนเป็นศูนย์กลางพัฒนา

ทั้งนี้ หากสามารถทำได้จะเป็นกลไกที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ประเทศ 1 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี และนักศึกษาวปอ.รุ่นนี้ พร้อมให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ และมั่นใจการนำพาประเทศของนายกรัฐมนตรี และตนเองพร้อมเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีด้วย

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อคิดเห็นรายงานผลการศึกษาว่า เป็นการนำเสนอได้ตรงประเด็นและถูกเวลา ซึ่งรัฐบาลกำลังขับเคลื่อนอยู่ ทั้งประเด็นด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สุขภาพ การท่องเที่ยว และส่วนใหญ่ถูกบรรจุในนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องนำไปปรับให้มีความยืดหยุ่นทันต่อสถานการณ์และกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้มียุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 12 ที่ต้องขับเคลื่อนแล้วและนำไปสู่การปฎิบัติ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักในขณะนี้ คือ เรื่องการเคารพกฎหมาย การมีจิตสำนึก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากที่สุด และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พยายามให้ทุกคนมีจิตสำนึกแต่ยังทำไม่ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ต้องรู้จักสร้างให้ทุกคนเป็นคนตื่นรู้ ไม่เฉื่อยชา พร้อมฝากให้ข้าราชการรู้จักใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เพราะหากไม่เรียนรู้ก็จะเสียโอกาสในการพัฒนา และขอให้ช่วยกันลดความขัดแย้ง

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องการเมืองที่พยายามโจมตีไปมา เพื่อหวังให้ตนเองเจ็บปวด แต่การโจมตีทำให้ประเทศไทยเสียหายมากกว่า และคนไทยเป็นคนละเอียดอ่อนเชื่อคนง่าย อ่านหนังสือไม่ถึงสามบรรทัดก็เชื่อแล้ว และมักนำไปโพสต์ต่อโดยไม่ศึกษาที่มาที่ไป และบางครั้งจ้องจะต่อว่าแต่ตนเอง ซึ่งไม่รู้เกลียดอะไรตนเองนัก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะโกรธคืนไม่ได้

ส่วนเรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ใช่จัดซื้อเพื่อใช้ในการรบอย่างเดียว แต่มีความจำเป็นในการใช้สำหรับการฝึกร่วม และเพื่อเป็นแนวทางป้องกันประเทศด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ