นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดไว้ในวันที่ 18 ก.ย.62 ว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามวาระปกติของสภาฯ เพราะแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นไม่รับคำร้องไว้พิจารณานั้น ก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานของสภาฯ การอภิปรายแบบไม่ลงมตินี้เป็นเรื่องการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญที่เขียนกำหนดไว้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิอภิปราย ซักถาม เสนอแนะ และให้คำแนะนำ ซึ่งการอภิปรายจะเป็นไปตามกรอบข้อบังคับการประชุมสภาฯ
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของสภาผู้แทนราษฎรที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการอภิปราย เหตุผลที่ศาลหยิบยกขึ้นมาใช้ คือมองว่าประเด็นการถวายสัตย์ฯ นั้นเป็นเรื่องของการกระทำของรัฐบาล องค์กรตุลาการจะไม่เข้าไปตรวจสอบ
"เมื่อเป็นเรื่องทางการเมืองเช่นนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสภาฯ มีความชอบธรรมที่จะแก้ปัญหาทางการเมือง และมองว่าการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนของนายกรัฐมนตรี แสดงถึงความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญว่า หากมีนายกฯ ท่านหนึ่งกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ เราจะทำเช่นไร และจะมีบรรทัดฐานอย่างไร ส.ส.ในฐานะผู้แทนของราฎรที่เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด เรามีความชอบธรรมและจะต้องอภิปรายตรวจสอบเพื่อหาทางออกให้กับ ครม." นายปิยบุตรระบุ
สำหรับการตรวจสอบนั้น จะมีการตรวจสอบหลายรูปแบบ ทั้งในทางกฎหมายซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และการตรวจสอบทางการเมืองต่อสาธารณชน โดยส่วนใหญ่ผ่านช่องทางสภาฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดสรรตัวบุคคลที่จะอภิปราย ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันอย่างละเอียดว่าจะจัดสรรเวลากับพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างไร ซึ่งมีเวลาอภิปรายเรื่องนี้ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง