พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในทุกพื้นที่และการให้ความช่วยเหลือไม่ได้ล่าช้าตาม แต่การใช้จ่ายงบประมาณมีขั้นตอนอยู่ ซึ่งหลายคนอาจไม่เข้าใจว่า การดำเนินงานต้องมี 3 ระยะ คือ ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และการฟื้นฟูหลังเกิดภัย โดยรัฐบาลสามารถใช้งบกลางและงบสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 50 ล้านบาทในทุกจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ดังนั้นขอให้เข้าใจด้วยว่ารัฐบาลไม่ใช่ไม่ให้อะไรเลย
สำหรับการเตรียมมาตรการช่วยเหลือได้ดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงการคลัง เช่น การเยียวยาพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง การบรรเทาหนี้สิน ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ และหลังจากน้ำลดใน 3-4 เดือนข้างหน้า ต้องมีมาตรการเสริมหลังน้ำลดด้วย เช่น การปลูกพืชน้ำน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ซึ่งทำให้ตนเองมีความสุขที่เห็นทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับรัฐบาล และในวันนี้จะมีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยผ่านมาทางสถานีโทรทัศน์ MCOT HD เพื่อนำเงินบริจาคเหล่านี้มาสมทบทุนช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่รัฐบาลสามารถใช้จ่ายได้ตามกฏหมายได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเคยเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อาจหนักหนาสาหัสในบางพื้นที่บางจังหวัด ซึ่งจากการประเมินคาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามเป็นห่วงว่าหลังจากน้ำลดจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้
ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดช้านั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้คิดช้า แต่คิดล่วงหน้ามาตลอดตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องป้องกันภัย แต่เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกมาในปริมาณมากถึง 500 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าขีดความสามารถที่จะรองรับน้ำของไทย จึงต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ และต้องวางแนวทางเป็นระบบ โดยวันนี้ได้เร่งรัดทุกกระทรวงและหน่วยงานให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน หากพื้นที่ใดการช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึงให้แจ้งมายังรัฐบาลหรือศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนด้วย
โดยทั้งหมดเป็นแผนงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มดีขึ้น ระดับน้ำลดลงถึง 40 เซ็นติเมตร เพราะระบบระบายน้ำดำเนินการได้ตามประสิทธิภาพแล้ว และคาดว่าสถานการณ์จะทุเลาได้ในไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู โดยเบื้องต้นน่าจะเสียหายประมาณล้านไร่ และแสนกว่าครอบครัว ดังนั้นจะใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด และคำนึงถึงชีวิตของประชาชนก่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่เพื่อไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมไปแล้ว และได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด ซึ่งอยู่ในกรอบการทำงานและมอบภารกิจไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของแต่ละจังหวัดว่าเพียงพอหรือไม่ หากไม่พอให้ขอเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้ไปดูแลประชาชน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่สามารถแจกเงินได้ทันที เพราะต้องระมัดระวังการใช้จ่าย
ส่วนที่มีการมองว่า หลายพรรคการเมืองแย่งซีนในการช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของพรรครัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของฝ่ายค้านที่ลงพื้นที่ก็เป็นส่วนของฝ่ายค้าน ไม่อยากไปทะเลาะด้วย แต่ขอให้เข้าใจว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นมาจากรัฐบาล ส่วนการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน
"ขออย่าไปสร้างความไม่เข้าใจอีกเลย บางคนบอกว่ารัฐบาลไม่รู้หรือไงว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ทำไมผมจะไม่รู้ สำนักงบประมาณอยู่กับผม แต่เขาก็บอกว่าเงินตรงนี้ใช้ตรงไหนได้บ้าง กฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ผมจะเอามาใช้ได้ทั้งหมดทุกอัน ถ้าใช้ได้ทั้งหมด ก็มีปัญหา งบฯฉุกเฉินก็มีส่วนของฉุกเฉิน งบฯกลางมาใช้ในงบฯฉุกเฉินได้ แต่ต้องแบ่งขั้นตอนการใช้จ่ายเงินตรงนี้ให้เหมาะสม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์มีการจัดงานเลี้ยงระดมทุนในคืนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้นว่าจัดเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่ว่าจะภาคเอกชนหรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าทำสิ่งใดที่เป็นการช่วยเหลือประชาชนก็ถือเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น และขออย่านำมาบิดเบือนหรือให้ร้ายซึ่งกันและกัน เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์