นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอแนะ 2 ทางเลือกให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาระหว่างปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะเพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ หรือ ลาออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการถวายสัตย์ปฏิญาณตนใหม่ เนื่องจากกล่าวนำการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนนั้น ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 อย่างชัดเจน และการกล่าวคำถวายสัตย์ที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะคาดหวังว่าจะรักษาและใช้อำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไปใช่หรือไม่
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การไม่กล่าวถ้อยคำ "ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ" จึงมีคำถามว่า ครม.ชุดนี้ จะใช้ระบอบใดในการปกครองประเทศ เพราะหากตอบว่าประชาธิปไตยก็ต้องมีรัฐธรรมนูญ
"การกล่าวถ้อยคำไม่ครบตามมาตรา 161 แสดงว่าอำนาจของ คสช.และมาตรา 44 จะคงอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่า คสช.จะสิ้นสุดลง หลังจาก ครม. ใหม่เข้าทำหน้าที่ แต่กรณีกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน คือครม.ใหม่ยังทำหน้าที่ไม่ได้โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ที่นายกฯไม่กล่าวคำว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ คือ นายกฯกลัวการตรวจสอบจากสภาฯ คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ เพราะครั้งหนึ่งสมัยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกตรวจสอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีประเด็นการกล่าวคำถวายสัตย์มาอภิปรายด้วย" นพ.ชลน่าน กล่าว
สำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ขาดรายละเอียดของงบประมาณที่จะดำเนินการ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ที่ระบุว่าต้องแสดงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะใช้ อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนุญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 57 กำหนดให้พรรคการเมืองบอกแหล่งที่มาของรายได้ที่จะใช้ในนโยบายที่หาเสียงรวมถึงบอกผลกระทบ และประโยชน์ที่จะได้รับ รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้นเมื่อนำนโยบายมาจากพรรคการเมือง ที่เขียนเป็นคำแถลงนโยบายรัฐบาลไม่บอกวงเงินที่จะใช้ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่บอกรายละเอียด ระบุเพียงว่ามาจากภาษีอากร
"ทำไมไม่นำนโยบายที่พรรคการเมืองซึ่งส่งรายละเอียดเรื่องบประมาณให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มาเขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลหรือพรรคการเมืองไม่ได้ทำ ซึ่งหากไม่ได้ทำหัวหน้าพรรคการเมืองต้องชี้แจงให้สภาฯ รับทราบ"นพ.ชลน่าน ระบุ
โดยมีข้อเสนอแนะ คือ ต้องยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ยึดรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม รวมถึงไม่กลับไปใช้อำนาจของ คสช.ในการปกครองประเทศ รวมถึงนายกฯ ต้องปรับปรุง แก้ไขตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ นับถือ และฟื้นความเชื่อมั่น