นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวอภิปรายว่า หากรู้ว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถวายสัตย์ไม่ครบเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 คงไม่ยกมือให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีเด็ดขาด
"ในการถวายสัตย์ไม่ครบ มีคนวางยาท่านหรือเปล่า ดูหน้าตาคณะรัฐมนตรีทุกท่านที่เข้าถวายสัตย์พร้อมกันก็ดูว่าน่าจะมี 1 คนที่อาจจะวางยาท่าน คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หรือเปล่า ผมไม่ได้กล่าวหา แต่อยากให้บอกความจริง หรืออาจจะเป็นเขียนสคริปต์ไม่ครบ หรือเป็นเพราะท่านนายกรัฐมนตรีอายุมากแล้ว 66 ปี เกิดความเลอะเลือน หลงๆ ลืมๆ"
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ได้รับการประชามติจากประชาชน 68 ล้านคน เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทยที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพราะฉะนั้นการถวายสัตย์ไม่ครบ ถ้าเปรียบเทียบกับคุณสมบัติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 97 ซึ่งมีอยู่ 4 ข้อ ถ้าส.ส.ขาดข้อใดข้อหนึ่งเป็นส.ส.ไม่ได้ เช่นเดียวกับนาคหากกล่าวคำขอบวชพระไม่ครบก็บวชไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์ได้หรือไม่ ให้ไปคิดเอาเอง
ในส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่ระบุที่มาของงบประมาณ โดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องบินของสายการบินไทยที่จะเข้า ครม.สัปดาห์หน้า นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในการแถลงนโยบายที่ผ่านมาไม่เคยพูดถึงเลยว่าจะมีการจัดซื้อเครื่องบินเพิ่มเติมในรายละเอียดการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีมูลค่าถึง 156,000 ล้านบาท จำนวน 38 ลำ ขณะที่หนี้สินของการบินไทยมี 248,000 ล้านบาท ถ้ารวมหนี้ใหม่ก็เป็น 4 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งจะรวมเป็นหนี้สาธารณะ ซึ่งขัดแย้งกับที่ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าประเทศเรามีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ประมาณ 211,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเอามาใช้ไม่ได้ และปัจจุบันเรามีหนี้สาธารณะถึง 7.0 ล้านล้านบาท มีหนี้ประชาชนถึง 13.0 ล้านล้านบาท แล้วท่านจะเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ ถ้าไม่จัดงบประมาณแบบขาดดุลจะไม่มีงบจัดซื้อจัดจ้างเลย
"ถ้าจะซื้อเครื่องบิน 38 ลำจริงๆ ในอนาคตถ้าขาดทุนขึ้นมาก็คงเหมือนจำนำข้าว ก็คงเหมือนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แน่ๆ เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่าการจัดซื้อเครื่องบิน เปิดเส้นทางการบินใหม่จะไม่ขาดทุน ถ้าผมรวบรวมทรัพย์สินของ 36 คนใน ครม.ก็คงไม่ครอบคลุม 156,000 ล้านบาทแน่นอน"นายงมงคลกิตติ์ กล่าว