นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากจะมีการพิจารณางบประมาณมากถึง 3 ล้านล้านบาท ประชาชนให้ความสำคัญ เพราะคาดหวังว่าการเมืองจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หากเราสามารถบริหารจัดการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพได้ งบประมาณครั้งนี้ผ่านการพิจารณาและนำไปใช้ได้จะเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็นเงินก้อนโตที่มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังผูกพันกับเศรษฐกิจโลก ขณะนี้อยู่ในยุคถดถอยและกลุ่มประเทศคู่ค้ากับประเทศไทยมีปัญหา ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ทำให้เกิดผลกระทบกับไทย ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น และต้องพึ่งการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก หากงบประมาณ 3 ล้านล้านบาทผ่านได้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาล ซึ่งรัฐบาลต้องชี้แจงให้เพื่อนสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆเข้าใจด้วย
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจจะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เสถียรภาพรัฐบาลขึ้นอยู่กับเสถียรภาพในสภาฯ ที่มีเสียงปริ่มน้ำ และเสถียรภาพนอกสภาฯ คือการยอมรับของประชาชนเพราะจะช่วยพยุงเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ เปรียบเสมือนเป็นห่วงยางช่วยให้รัฐบาลลอยอยู่เหนือน้ำได้
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมานั้นไม่ง่าย เพราะจัดตั้งท่ามกลางการเมืองที่แบ่งขั้วอย่างชัดเจน เนื่องจากพื้นฐานรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ๆ และพรรคที่มีเสียงน้อยๆ ถือเป็นครั้งแรกที่ผลการเลือกตั้งพลิกล็อคจนเกิดพรรคใหม่ที่มี ส.ส.เพียง 1 เสียงหลายพรรค ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยากลำบากที่จะให้มีเสถียรภาพ
"รัฐบาลต้องพยายามบริหารจัดการเสียง ส.ส.ที่มีอยู่ 250 ต้นๆ ถือว่ายากลำบากในการลงคะแนน ต้องทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ชนะโหวตจึงเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้จะมีการลงมติเรื่องต่างๆ ต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากๆ ต้องดูแลเสียงให้ชนะกฎหมายที่สำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน แม้ว่าจะเหนื่อยก็ต้องยอมรับ ทุกคนต้องไม่ขาดประชุมเพื่อชนะโหวต" นายสุวัจน์ กล่าว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีข่าวฝ่ายค้านจะอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน ว่า เรื่องเวลาในการอภิปรายไม่น่าจะมีปัญหา สมาชิกสามารถอภิปรายได้เต็มที่ ขออย่างเดียวคือไม่ซ้ำซาก วนเวียน และต้องแบ่งเวลาให้สมาชิกคนอื่นได้อภิปรายด้วย
ส่วนความกังวลเรื่องปัญหาเสียงปริ่มน้ำนั้น แต่ละฝ่ายก็ต้องพิจารณากันเอง เพราะหากร่างกฎหมายงบประมาณไม่ผ่านการพิจารณาแล้วก็น่าจะนึกออกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในทางการเมืองบ้าง