นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เช้านี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะชี้แจงแนวนโยบายในการบริหารประเทศของรัฐบาลให้แก่หัวหน้าส่วนราชการระดับสูงและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ตนเองได้ประชุมคณะกรรมการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.), สำนักงบประมาณ, สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ(ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เพื่อนำนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภามาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการในช่วง 4 ปี(2551-54)
แนวทางการบริหารประเทศจะยึดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและอยู่รอดจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาซับไพร์มของสหรัฐฯที่สร้างปัญหาทางเศรษฐกิจทั่วโลก เป็นต้น
รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับคนระดับรากหญ้าเป็นหลัก ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันไว้รองรับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เน้นสร้างความเข้มแข็งในระดับชุมชน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาแต่ไม่ใช่นำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์เนื่องจากจะเกิดปัญหาหนี้สินตามมาภายหลัง รวมถึงการให้ความรู้และการศึกษาในการพัฒนาชีวิตประชากร ขณะที่ผู้ประกอบการต้องพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันกับต่างชาติและต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะราคาพลังงาน และ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่ ก.พ.ร.และกระทรวงมหาดไทยได้รายงานเรื่องการจัดตั้งสำนักบริหารยุทธศาสตร์จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ซึ่งเสร็จแล้ว 10 กลุ่มกระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันที โดยสนับสนุนการพัฒนาและงบประมาณในระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบซีอีโอ โดยให้เงินลงสู่ระดับชุมชนมากที่สุด คล้ายกับนโยบายสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะมีงบประมาณสนับสนุนจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประมาณ 40,000 ล้านบาท แต่ในรัฐบาล พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้แปลงงบประมาณดังกล่าวมาเป็นโครงการอยู่ดีมีสุข
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--