ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) กับพวก ในคดีครอบครองงาช้าง เนื่องจากเป็นการครอบครองโดยสุจริต
คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางคณิตดา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย, นายเปรมชัย และ น.ส.วันดี สมภูมิ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของภรรยานายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ.2469
ซึ่งในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.58 นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ ว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่งถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีเจ้าหน้าที่ศิลปากรได้เบิกความเกี่ยวกับอายุของงาช้างที่ได้ตรวจดูจากฐานไม้งาช้างทำขึ้นพิเศษเพื่อให้พอดีกับขนาดของงาช้าง ซึ่งมีอายุมากกว่า 40 ปี โดยสอดคล้องกับคำให้การของจำเลยที่ได้ระบุว่ารับงาช้างตกทอดมาจากมารดาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งมารดาของจำเลยนั้นก็ได้รับงาช้างมาเมื่อปี 2521และได้ยื่นแบบคำขอครอบครองไปโดยสุจริตตามข้อความที่ได้ระบุ
"การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ส่วนนายเปรมชัย จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องเพราะมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน และนางวันดี จำเลยที่ 3 ถูกฟ้องเพราะเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองการทำแบบคำขอตามที่จำเลยที่ 1 บอกว่าได้รับงาช้างมาจากมารดา เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิด จำเลยที่ 2 และ 3 จึงไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง พร้อมทั้งยกคำร้องที่ขอให้ริบของกลางเป็นงาช้าง 2 คู่" คำพิพากษาศาล ระบุ