นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 3 ต.ค. เวลา 10.30 น. ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ซึ่งได้ยื่นแจ้งบัญชีต่อ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2562 นั้น หลังพบข้อสงสัยอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายประการ โดยเฉพาะการเป็นกรรมการหรือถือหุ้นในบริษัทที่ยังไม่ได้ชำระบัญชีและหรือยังไม่ได้จดทะเบียนยกเลิกบริษัทไม่ครบถ้วนตามหลักฐานที่ปรากฎ ซึ่งนายพิเชษฐรายงานว่าถือหุ้นในบริษัทร้างจำนวน 5 บริษัท แต่ข้อเท็จจริงจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า นายพิเชษฐถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ถึง 7 บริษัท รวมทั้งไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งว่ามีบัตรเครดิตหรือการเบิกเงินเกินบัญชีตามแบบหรือหลักเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.กำหนดด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา 114 ของ พ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เมื่อปรากฏว่าผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ป.ป.ช.อาจเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัย ซึ่งอาจมีความผิดตาม มาตรา 167 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอาจมีผลต่อการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 101 ได้ในที่สุด