นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการถือธงนำแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไม่เอาด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น จึงอยากถามไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ชูนโยบายหาเสียงให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะผลักดันให้เรื่องนี้เข้าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปอย่างไรเมื่อชัดเจนแล้วว่าผู้นำรัฐบาลไม่เอาด้วย
นายธนาธร กล่าวว่า คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความย้อนแย้งในตัวเองอย่างมาก ซึ่งมีปัญหาทั้งในเชิงหลักคิดและข้อเท็จจริง 3 ประการ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำตามกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับพยายามบอกให้คนอื่นทำ ดังจะเห็นชัดจากการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ, การแถลงนโยบายโดยไม่ชี้แจงที่มาของเงิน และการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ
2.การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งคำถามว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นี่คืออีกความย้อนแย้ง เพราะถ้าย้อนไปตอนทำรัฐประหารซึ่งเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญได้ถามประชาชนหรือไม่ และยังไปให้สัมภาษณ์กับนิตยสารต่างประเทศว่าเตรียมการรัฐประหารมา 6 เดือนทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นสังคมไทยยังไม่มีเหตุการณ์ที่จะเดินไปสู่ทางตันด้วยซ้ำ
3.กล่าวได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนร่างเอง และวัตถุประสงค์รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาให้แก้ไขไม่ได้ในกระบวนการปกติ ดังนั้น ไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่เขียนไว้ เพราะรู้ว่าจะทำไม่สำเร็จ
นายธนาธร กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการประชาชนได้ พี่น้องประชาชนทั่วประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความเดือดร้อน ปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจสังคมที่รัฐบาลไม่อาจแก้ไขให้ได้ ดังนั้น เขาจึงมีสิทธิเลือกให้การลงคะแนน จ.นครปฐม เขต 5 เป็นมติมหาชน เลือกที่จะลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไว้วางใจผู้นำแบบนี้ ไม่ไว้วางใจรัฐบาลนี้ ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ต.ค.นี้จะเป็นมติมหาชน โดยจะเริ่มที่ จ.นครปฐม เขต 5 เป็นที่แรก และจะลุกลามไปในทุกเขต ทุกจังหวัดที่มีการเลือกตั้งซ่อม