แหล่งข่าวจากพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ทีมโฆษกพรรคแจ้งว่าได้รับทราบข่าวกรณีที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ 7 แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว จากกรณีจัดเสวนา "พลพลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" เมื่อวันที่ 28 ก.ย.62 ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยขณะนี้ทางพรรคอนาคตใหม่อยู่ระหว่างประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป โดยอาจจะมีการแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย และจะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ได้รับมอบอำนาจจากแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับแกนนำ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน และนักวิชาการรวม 12 คน ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดด้วยการยุยงปลุกปั่นด้วยวาจาในเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเป็นการยุยงปลุกปั่นที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีจัดเสวนาในหัวข้อ "พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" ที่บริเวณลานวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับผู้ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 2.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ 3.พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย 4. นางชลิตา บัณทุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 5.นายสมพงษ์ สระกวี ที่ปรึกษาพรรคเสรีรวมไทย 6. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ
7.นายมุข สุไลมาน เหรัญญิกพรรคประชาชาติ 8.นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย 9.นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ 10.นายอสมา มังกรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 11.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ 12.นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการและพิธีกรรายการโทรทัศน์
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ตรวจสอบพบว่าการจัดเสวนาดังกล่าว ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนเวที ซึ่งมีประชาชนร่วมรับฟังประมาณ 150 คน และมีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ Facebook พรรคประชาชาติ และอัพโหลดการจัดเสวนาดังกล่าวลงในช่อง YouTube เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนทั่วไปรับรู้รับทราบ รับชม และรับฟัง โดยการพูดนำดังกล่าวมีการเสนอข้อมูลในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่อง ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน