นายธนาธร ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.61 ได้รับเชิญจากนิตยสาร The Economist ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลกให้ไปพูดที่งาน Open Future Festival ที่ฮ่องกงหัวข้อ "Inside the Minds of Asia’s Next Gen Politicians" ซึ่งในวงเสวนามีผู้ร่วมรายการ ได้แก่ Tim Wilson สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหัวก้าวหน้าจากออสเตรเลีย เนื่องจาก Nurul Izzah Anwar สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากมาเลเชีย ลูกสาวของนายอันวาร์ อิบราฮิม ที่ได้รับเชิญมาไม่ได้เนื่องจากติดภารกิจ
หลังจากงานเลิกแล้ว ตนเองและโจชัว หว่อง พบกันในบริเวณงานและได้พูดคุยกันประมาณ 5 นาที พร้อมทั้งถ่ายรูปด้วยกันและแยกย้ายหลังจากนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้พบปะกับโจชัว หว่อง และยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ ในฮ่องกง และไม่มีเจตนาที่จะทำในอนาคต เพราะภารกิจของตนเองและพรรคอนาคตใหม่ คือการสร้างประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของสังคมไทย
สำหรับการสนทนาและถ่ายรูปกันในหมู่ผู้พูดในงานสัมมนาต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตนเองได้ถ่ายรูปร่วมกับหลายคนในงาน รวมทั้งกับ Shaun L. Rein และมีโอกาสสนทนากันหลายเรื่อง มากกว่าที่สนทนากับโจชัวเสียอีก โดย Shaun มาจาก China Market Research Group ผู้เขียนหนังสือ The War for China’s Wallet ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การประท้วงในฮ่องกง และขึ้นเวทีถกเถียงกับโจชัว หว่อง
ในเวทีสัมมนานานาชาติเช่นนี้ การพบปะพูดคุยกับคนที่มีความคิดหลากหลายเป็นธรรมดา และเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้ความเห็นที่หลากหลาย เช่น กรณีของ Shaun ยืนยันแนวทางการเมืองของปักกิ่ง แต่ก็เสนอว่าการแก้ปัญหาฮ่องกงต้องลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้ให้ทั่วถึงคนส่วนใหญ่ด้วย โดย Shaun ยังชวนตนเองไปพบเขาหากมีโอกาสไปปักกิ่งอีก
นายธนาธร ระบุว่า ในระหว่างการบรรยายได้พูดถึงฮ่องกงบนเวทีจริง โดยกล่าวว่าเมื่อปลายปี 60 ตอนที่ตนเองและเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เราครุ่นคิดกันว่าจะสร้างขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (Social Movement) หรือพรรคการเมือง โจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ และฮ่องกงชวนให้เราคิดถึงโมเดลขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม แต่สุดท้ายตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองและต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบรัฐสภาแทน เนื่องจากความสูญเสียจากการสลายการชุมนุมปี 53 ยังคงบาดลึกอยู่ในสังคมไทย
หากจะถามเรื่องฮ่องกง ตนเองสนับสนุนการเคารพธรรมนูญการปกครองฮ่องกง (Basic Law) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อฮ่องกงถูกส่งคืนสู่เขตอำนาจอธิปไตยของจีน โดยยึดหลัก"หนึ่งประเทศ สองระบบ"อย่างสมดุล และเคารพสิทธิการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงอย่างเป็นประชาธิปไตยตามที่ระบุไว้ใน Basic Law มาตรา 45
และ สนับสนุนการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงออกโดยสันติเสมอมา ปรารถนาที่จะเห็นสถานการณ์ที่ฮ่องกงคลี่คลายไปได้ด้วยดี ไม่ปรารถนาเห็นการใช้ความรุนแรงต่อทั้งพลเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ทางออกที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อถือและไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับพลเมืองขึ้นมา ไม่ดำเนินการหรือใช้มาตรการใดๆ ที่ไม่สมควรแก่เหตุ
สำหรับรูปถ่ายระหว่างกับโจชัว หว่อง เพียงภาพเดียวถูกนำมาขยายความต่อเกินความจริง โดยปราศจากหลักฐานยืนยันใดๆ สื่อ, กลุ่มคนบางกลุ่ม, รวมถึงผู้นำกองทัพ พยายามเชื่อมโยงกับความไม่สงบในฮ่องกงเพื่อสร้างความเกลียดชังในสังคมไทย
"ผมขอให้ทุกท่านรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน และขอยืนยันอีกครั้งว่าเราสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศสู่ประชาธิปไตย, สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมในสังคม และส่งต่อสังคมที่ดีกว่านี้ให้แก่คนรุ่นต่อไป"