7 พรรคฝ่ายค้าน หวังได้เพิ่มเวลาอภิปรายฯงบเป็น 3 วันหลังจัดทีมแน่น 106 คน

ข่าวการเมือง Tuesday October 15, 2019 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระแรกที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 ต.ค.นี้นั้น จากการหารือของฝ่ายค้านเห็นว่าควรจะต้องใช้เวลา 3 วัน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการอภิปรายเพียงแค่ 2 วัน ทำให้เรายังไม่เห็นด้วยกับกรอบเวลาดังกล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้มีรายละเอียดมากมีเอกสารถึง 35 เล่ม กับงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท โดยหวังว่าเมื่อถึงเวลาการประชุมประธานสภาฯ จะเห็นความตั้งใจจริงในการทำงานของฝ่ายค้าน และเห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ โดยปรับเพิ่มเวลาให้ตามที่ร้องขอ

"เราเตรียมความพร้อม เตรียมรายละเอียดอย่างรอบคอบในการอภิปราย วันนี้ได้เชิญตัวแทนสำนักงบประมาณ มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับส.ส. จะทำให้ข้อมูลและอภิปรายได้อย่างมีประสิทธิพภาพ เราไม่ตั้งโจทย์ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เราไม่สาดโคลน ไม่สร้างวาทะกรรมเพื่อทำลายล้าง แต่เราจะทำงานด้วยข้อมูล เอาผลประโยชน์ของประเทศ ประชาชน เป็นตัวตั้ง เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ติดตามฟังการอภิปราย" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีผู้เสนอตัวขออภิปรายแล้วทั้งสิ้น 106 คน โดยเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 33-35 คน พรรคเสรีรวมไทย 2 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 2 คน และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน

จากจำนวนผู้อภิปรายที่มีถึง 106 คนนั้น หากให้เวลาเพียงแค่ 2 วัน จะทำให้ 1 คนได้เวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะการจัดทำงบ 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบที่สมบูรณ์ ปีนี้จึงอยากจะสะสางให้เข้าที่เข้าทาง โดยพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่อภิปรายวกวน ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน

"การอภิปรายครั้งนี้จะเน้นเรื่องของประโยชน์ของประชาชนและการแก้ปัญหาประเทศเป็นหลัก อะไรที่ไม่ดีก็จะท้วงติงและเสนอแนะ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลใจกว้างรับฟังคำแนะนำแล้วไปปรับปรุงแก้ไขเราก็พร้อมให้โอกาส โดยหากยอมรับว่าผิดพลาดเราก็อาจจะผ่านให้ นี่คือเจตนาของฝ่ายค้าน แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ยังดึงดัน เราก็จำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่เรามีและไม่ให้โอกาส"

สำหรับการลงมติในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ นายสุทิน กล่าวว่า จะต้องมีการหารือในส่วนของ7พรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน แต่แน่นอนว่าจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะต้องออกเป็นมติพรรค ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องค้านรัฐบาลเสมอไป แต่อยากฝากสมาชิกพรรคที่ต้องลงมติต้องให้ความสำคัญกับมติพรรคด้วย แม้จะเข้าใจว่า ส.ส.มีเอกสิทธิในการลงมติ แต่หากใครสวนมติพรรค คงต้องเรียกเข้ามาสอบถามให้อธิบาย คงไม่มีการลงโทษ ต้องปล่อยให้สังคมลงโทษแทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ