รายงานข่าว แจ้งว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมเพื่อเตรียมเนื้อหาและความพร้อมในการเตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยกำหนดประเด็นหลักในการอภิปรายที่จะชี้ให้เห็นว่าการจัดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องการเวลาในการอภิปราย 20 ชั่วโมง เนื่องจากมีเนื้อหารายละเอียดและบุคคลที่ต้องการอภิปรายจำนวนมาก จึงหวังว่ารัฐบาลจะเข้าใจ และจากการพูดคุยก็เห็นว่ารัฐบาลมีท่าทีที่อ่อนลง เบื้องต้นคาดว่าจะมีการประชุม 3 วัน โดยจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น. แต่หากตกลงกันไม่ได้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้ตัดสินใจ
นายสุทิน กล่าวว่า รูปแบบการอภิปรายจะใช้วิธีแบบลูกเสือ คือมีผู้อภิปรายทั่วไปก่อน จากนั้นนายหมู่จะเป็นผู้เติมเต็มสรุปข้อมูลเป็นบางช่วง เพื่อให้เนื้อหาครอบคลุม เบื้องกำหนดตัวนายหมู่ไว้ 12 คน แบ่งตามหมวด เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม., นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และตนเอง ส่วนเนื้อหาภาพรวมจะเน้นชี้ให้เห็น 4 ประเด็นหลัก คือการใช้งบให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนหรือไม่ แก้ปัญหาตอบโจทย์ประเทศได้สูงสุดหรือไม่ ใช้งบประมาณได้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และสุดท้ายจัดงบประมาณมีความโปร่งใสถูกต้องหรือไม่ โดยจะชี้ให้เห็นว่าเหตุใดฝ่ายค้านจึงไม่สามารถยกมือสนับสนุนให้กับ พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้ได้
"ยืนยันว่าไม่ได้จ้องล้มรัฐบาล หรือเอางบประมาณมาเป็นเกมการเมือง แต่ต้องทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะหาก พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่ผ่านสภาฯ รัฐบาลก็ยังสามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่เข้ามาภายใน 1-2 เดือน และยังสามารถเบิกจ่ายงบประมาณที่จำเป็นได้ล่วงหน้า จึงไม่กระทบกับการใช้จ่ายงบประจำของแต่ละกระทรวง" นายสุทิน กล่าว
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายค้านอาจจะยอมให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯ ในวาระรับหลักการไปก่อนนั้น นายสุทิน กล่าวว่า จะมีข้อสรุปในวันสุดท้ายหลังจากหารือร่วมกับ 7 พรรคฝ่ายค้าน ส่วนจะยกมือให้ผ่านหรืองดออกเสียงขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะรับฟังคำแนะนำและนำไปปรับปรุงหรือไม่ เชื่อว่าจะไม่มีงูเห่าหรือมีใครแตกมติพรรค รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน
นายสุทิน กล่าวว่า ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะยังไม่ร่วมอภิปรายในครั้งนี้ เพราะแสดงความต้องการก่อนหน้านี้แล้วว่าจะขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเท่านั้น ขณะเดียวกันฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ส.ส.ที่เป็นรัฐมนตรีสามารถโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณได้หรือไม่ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงจะต้องมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการอภิปรายครั้งต่อไป
ส่วนกรณีที่นักกิจกรรมการเมืองเรียกร้อง ส.ส.งดออกเสียงให้กับร่างพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นการเสนอกฎหมายไม่ถูกต้อง เหมือน พ.ร.ก.ชะลอการบังคับใช้กฎหมายส่งเสริมสถาบันครอบครัวก่อนหน้านี้ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นมุมมองเสียงสะท้อนจากสังคม ซึ่งก็ต้องรับฟังแต่จะปฎิบัติตามข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่ ขอหารือรายละเอียด เนื้อหา เหตุผลกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดคุยกัน