นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงผลเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐม เมื่อวานที่ผ่านมา (23 ต.ค.) โดยยอมรับความพ่ายแพ้และรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา แต่ต้องยอมรับว่าพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งขอแสดงความยินดีด้วย ส่วนสาเหตุที่พรรคแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ อยู่ระหว่างรอทีมงานทำคำชี้แจงเพื่อนำไปปรับปรุงพรรคเข้มแข็งต่อไป แต่ไม่ได้ตกใจกับผลที่เกิดขึ้น เพราะพรรคเพิ่งก่อตั้งเพื่อต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม สามารถเติบโตขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาที่สั้น โดยขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนจะเป็นเพราะกระแสนิยมที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธิ์ ดีขึ้นหรือไม่นั้น ถ้าไปสอบถามประชาชนในพื้นที่ก็จะตอบได้ไม่ยาก
นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งที่นครปฐม หรือกรณี ส.ส.หลายคนที่ไม่ทำตามมติพรรคนั้น พรรคยังคงเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไปอย่างมั่นคง
"กาลเวลาเปรียบเสมือนไฟ การจะต่อสู้กับเผด็จการและอำนาจที่ไม่เป็นธรรมได้ ดาบต้องไม่มีสนิม ดังนั้นเมื่อผ่านกาลเวลา ไฟเหล่านี้จะเอาสนิมออกจากดาบเอง ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า 28,000 กว่าเสียงที่จังหวัดนครปฐมเป็นเหล็กเนื้อดีเช่นเดียวกับ ส.ส.ของพรรคอีก 70 คนก็เป็นเหล็กเนื้อดี ดังนั้นกาลเวลาจะทำให้เรากล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวจึงไม่มีความกังวลใจอะไร ล้มเพื่อลุก ต่อให้พวกเราจะถูกซื้อทั้งหมดจนเหลือแค่ธนาธรกับปิยบุตร เราก็จะลุกขึ้นมาและทำงานทางการเมืองต่อไป เพื่อให้ได้สังคมอย่างที่ใฝ่ฝัน ส่วนเหล็กที่เป็นสนิมของพรรค ขณะนี้ทางพรรคก็คงจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ แต่ส่วนตัวยังมีความภาคภูมิใจในสมาชิกของพรรค และยืนยันว่าสมาชิกพรรคทุกคนเป็นเจ้าของพรรค" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุการเลือกตั้งซ่อมนครปฐมในครั้งนี้จะไม่นำคะแนนที่ได้ไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งแทน ส.ส.ที่ลาออก ไม่ใช่เกิดกรณีทุจริต โดยตั้งข้อสังเกตว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 191 วรรค 3 นั้น ตนอยากให้นักกฎหมายมหาชนช่วยกันพิจารณาว่าพรรคอนาคตใหม่ควรได้ที่นั่ง ส.ส.เพิ่มหรือไม่ เพราะขณะที่บางพรรคมีจำนวน ส.ส.มากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี แต่พรรคอนาคตใหม่กลับมีจำนวนน้อยกว่า ส.ส.พึงมี ทั้งที่มาตรา 97 วรรค 3 ในรัฐธรรมนูญกำหนดว่า จำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรคให้เอาสัดส่วนพึงมีลบด้วย ส.ส.เขต ก็จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ