อิหร่านกำลังเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งกำลังจะพิจารณาร่างมติใหม่เพื่อคว่ำบาตรอิหร่านอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวภายหลังการประชุมลับกับทูตเยอรมนีและสมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเรื่องอิหร่านเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในกรุงวอชิงตันว่า ที่ประชุมคาดว่าจะมีการลงคะแนนเสียงเรื่องมติคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 โดยเร็ว
นายทอม เคซีย์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เราคาดว่าจะมีการลงคะแนนเสียงร่างมาตรการคว่ำบาตรที่ได้มีการหารือกันที่นิวยอร์กในเร็วๆนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ร่างมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่นี้มีพื้นฐานอยู่บนองค์ประกอบของมติคว่ำบาตรที่ได้มีการตกลงกันแล้วเมื่อเดือนม.ค.ในการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน โดยมีการเปลี่ยนแปลงข้อความเพียงเล็กน้อย
ในวันพรุ่งนี้ คณะมนตรีมีกำหนดประชุมกันเรื่องจุดยืนของตนเองที่มีต่อร่างมติคว่ำบาตรล่าสุดซึ่งนำเสนอโดยอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี และคาดว่าจะมีการลงคะแนนเสียงอย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับมติคว่ำบาตรอิหร่านของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นก่อนหน้านี้ ร่างชุดใหม่จะระบุเรื่องการสั่งห้ามและการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อชาวอิหร่าน ตลอดจนการขยายขอบเขตของการยึดทรัพย์ การควบคุมการใช้สินเชื่อเพื่อการส่งออก การติดตามสอดส่องด้านการเงิน การตรวจสอบสินค้าบนเครื่องบินและเรือ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ร่างมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่นี้โดยพื้นฐานนั้นเป็นไปตามรูปแบบของมติ 1737 และ 1747 ซึ่งมีเป้าหมายที่การสร้างแรงกดดันกีบอิหร่าน รวมทั้งการผลักดันให้มีการใช้วิธีการแก้ปัญหานิวเคลียร์อิหร่านผ่านช่องทางการทูต ซึ่งมาตรการชุดใหม่นี้จะส่งผลกระทบอิหร่านในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น และสาระสำคัญจริงๆไม่ได้อยู่ที่การลงโทษ แต่อยู่ที่แรงกดดันทางการเมืองและการทูตที่ประชาคมโลกมีต่ออิหร่าน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--