นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อทบทวนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน-สหรัฐฯ ในมิติการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรมในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ในอนาคต และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยมีผู้แทนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และนายโรเบิร์ต ซี.โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมประชุม
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับนายโรเบิร์ต ซี.โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ในฐานะประธานอาเซียน ชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ซึ่งช่วยให้อาเซียนได้พัฒนาเป็นประชาคมที่มีพลวัตและความเจริญรุ่งเรือง และขอบคุณที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนผ่านกลไกสำคัญ รวมไปถึงกรอบการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (อีเอเอส) การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (เออาร์เอฟ) และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมของอาเซียนบวกคู่เจรจา (เอดีเอ็มเอ็มพลัส)และในปีนี้ อาเซียนและสหรัฐฯ ได้ร่วมกันจัดการฝึกร่วมทางทะเลเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังมีบทบาทสนับสนุนมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมสร้างเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงาน รวมถึงการมีบทบาทของนักลงทุนสหรัฐฯ ที่เป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญต่อการเจริญเติบโตในภูมิภาคที่ครอบคลุมและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความยินดีที่ภาคเอกชนไทยและสหรัฐฯ ร่วมกันริเริ่มจัดการประชุม Indo-Pacific Business Forum ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การประชุมในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่อาเซียนและสหรัฐฯ จะได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และหวังที่จะเห็นพัฒนาการในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของอาเซียน-สหรัฐฯ ในทุกมิติ เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ของประชาชนอาเซียนและสหรัฐฯ อย่างก้าวหน้าและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักลงทุนสหรัฐฯ ให้ร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค รวมถึงสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งบทบาทที่แข็งขันของสหรัฐฯ นี้จะช่วยต่อยอดการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดหลักของการประชุมอาเซียนในปีนี้
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกส่วนที่มีส่วนร่วมในการแสดงวิสัยทัศน์ และขอบคุณ สปป.ลาว ที่ทำหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพตลอดปีที่ผ่านมา