พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ (กมธ. ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ยื่นใบลาออกจาก กมธ.ป.ป.ช. เพื่อเปิดทางให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้ามาทำหน้าที่แทนว่า ยังไม่ได้รับหนังสือลาออกจากนายดล
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนพิจารณาได้ว่าเรื่องนี้เป็นการบีบบังคับของฝ่ายรัฐบาล ให้ใครลาออกหรือให้ใครเข้ามาเป็น กมธ.ที่เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่มาช่วยกันขัดขวางการทำงานของ กมธ.ในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะการถวายสัตย์ปฎิญาณของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
"เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็บอกแล้วว่าคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องเรื่องการถวายสัตย์ฯ ไม่ได้ผูกพันทุกองค์กร กรรมาธิการก็มีสิทธิเชิญมาชี้แจงเนื่องจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ด้วยตนเองแล้วจะให้ใครมาตอบแทน เพราะหนังสือที่ตอบมาก็ยังไม่ถูกต้อง แต่กรรมาธิการกำลังป่วนเพราะมี 2-3 คนเข้ามา"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ระบุว่าฝ่ายัฐบาลพยายามรวบรวมเสียงนับสนุนเพื่อขอมติที่ประชุม กมธ.ป.ป.ช.ปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.ในสัปดาห์หน้านั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะที่มาของ กมธ.นั้นเป็นมติแต่งตั้งของสภาผู้แทน ตามโควตา ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับการจัดสรรมา
"ในเมื่อกฎหมายเป็นแบบนี้ใครจะปลดได้ เพราะจะปลดก็ต้องมีกฎหมายรองรับ แต่นี่ไม่มีกฎหมายรองรับ แม้จะยกมือปลด ก็ปลดไม่ได้ ผมทำหน้าที่เพื่อประชาชน แต่คนพวกนี้ทำหน้าที่ปกป้องกล่องดวงใจของเขา"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในของกรรมาธิการบางคณะว่า ส่วนใหญ่ไม่พบว่ามีปัญหา แต่จะมีทะเลาะกันก็เพียง 1 หรือ 2 คณะเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปต้องแก้ปัญหากันภายในด้วยการเชิญสมาชิกไปพูดคุยว่ามีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องใด หากเป็นเรื่องงานก็ทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็คงจะยาก ทุกปัญหาควรทำความเข้าใจกันเอง เพื่อไม่ให้ชาวบ้านรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาพความขัดแย้งที่ออกมา