นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวลาออกจากการเป็น กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยระบุว่า จากความผันผวนทางการเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ กมธ. เพื่อกลับไปอยู่กับประชาชน
"ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นผมอยู่ในสภา ก็จะกลับไปอยู่กับประชาชน โดยเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชน ลุกขึ้นยืนตรง ไม่ยอมก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไป ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน"นายธนาธร กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร ยังคงมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้นำ ซึ่งนายปิยบุตร เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นนักกฎหมาย ทำหน้าที่ในสภาฯ ได้อย่างมีพลังสร้างสรรค์ "สิ่งที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนกำลังทำอยู่กับสังคมไทยในเวลานี้คือ การรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเอง เอาผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เข้าสู่กลุ่มตัวเองและพวกพ้อง ด้วยการใช้กลไกเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญ ที่พวกเขาแต่งตั้งมาเอง นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือการรวบอำนาจกลับอยู่ที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนคนส่วนน้อยของประเทศ
แต่สิ่งที่พวกเราจะทำ คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทย เป็นอนาคตที่ทุกคนเท่าเทียมกัน อนาคตที่ดอกผลการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายไปสู่ทุกคนอย่างเท่าเทียม ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจึงต้องการทำลายเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะเห็นความตั้งใจของเรา เห็นความพยายามของเราที่อยากจะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่สังคมไทย"นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ยังกล่าวอีกว่า ไม่มีแรงกดดันในการทำหน้าที่ กมธ. บรรยากาศการทำงานราบรื่น สามารถทำงานอย่างมุ่งมั่นแข็งขัน ไม่เกี่ยวการทำงานร่วมกับเพื่อนกรรมาธิการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ กมธ. เป็นการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสภาฯ ดังนั้น เมื่อความเป็น ส.ส.ของตนเองโดนตัดไป แม้ว่าความเป็น กมธ. จะไม่โดนตัด แต่เมื่อไม่ต้องการให้อยู่ตรงนี้ก็ไม่อยู่ ส่วนในอนาคตถ้ามีการเสนอชื่อเป็น กมธ.ชุดอื่นๆ นั้น ต้องดูเป็นกรณีไป หากมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดก็อาจมีความจำเป็น แต่ถ้าไม่ก็คงขอทำงานข้างนอกสภาฯ ดีกว่า
"ในการทำงานการเมือง เราไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ได้ตั้งพรรคเพราะอยากเป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี เหล่านี้ไม่ได้มีความหมาย เราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อนำความเปลี่ยนแปลง นำสิ่งที่ดีกว่าสู่ประชาชนคนไทย การเป็น ส.ส. หรือไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้หยุดยั้งผมและพรรคอนาคตใหม่ในการก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แม้ไม่ได้เข้าสภา ผมยังเชื่อว่า ยังทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้"นายธนาธร กล่าว
พร้อมกับระบุว่า จะออกไปพบปะทำความเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน เพื่อนำปัญหาและข้อเสนอส่งต่อให้กับ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในสภาเพื่อผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหา และขะยังได้ใช้โอกาสที่ไม่ได้อยู่ในสภานี้ ร่วมรณรงค์ ร่วมทำงานทางความคิดกับประชาชนให้เข้าใจปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเชิงโครงสร้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเครื่องมือของอภิสิทธิ์ชนอย่างไร กดขี่ประชาชนอย่างไร
นอกจากนั้น จะเดินทางไปรณรงค์ ร่าง พ.ร.บ. ต่างๆ ที่พรรคเสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว และต้องการการสนับสนุนจากประชาชน ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รับราชการทหาร, พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิแรงงาน, พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. เหล่านี้เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับประชาชน