นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงว่า ที่ประชุม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติหลังการหารือร่วมกันที่จะเสนอให้รัฐบาลถอนญัตติให้มีการลงคะแนนใหม่ ในการพิจารณาญัตติขอตั้งคณะกรรมการธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 เพื่อให้สภาฯ กลับไปใช้มติเดิมที่ได้ลงคะแนนไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่หากฝ่ายรัฐบาลยืนยันที่จะให้มีการลงคะแนนใหม่ ส.ส.ฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม
"ในการประชุมของฝ่ายค้าน ได้มีการพิจารณาและหาทางออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลถอนญัตติการลงคะแนนใหม่ และ 2.ฝ่ายค้านเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมเพื่อให้สภาเดินหน้าต่อไปได้ แต่หากรัฐบาลยังยืนยันที่จะไม่ถอนญัตติดังกล่าว ฝ่ายค้านจะมีแนวทางที่ 3 คือ ต่างฝ่ายต่างเคารพจุดยืนซึ่งกันและกัน โดยฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมองค์ประชุม"นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวว่า ผลสรุปของฝ่ายค้านครั้งนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งอารยะขัดขืน เพราะต้องการให้สภามีบันทัดฐานที่ถูกต้องและคิดว่าในอนาคตควรจะต้องมีการแก้ไขข้อบังคับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุทินกล่าวว่า ฝ่ายค้านได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจะมีการเลื่อนเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดไว้ช่วงกลางเดือน ธ.ค.62 ไปเป็นช่วงเดือน ก.พ.63 โดยมีเหตุผล 3 ประการ ได้แก่ 1.ได้มีการพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้วเห็นว่า คำว่า หนึ่งปี ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ได้เป็นระยะเวลาตามปีปฏิทิน ทำให้ฝ่ายค้านไม่จำเป็นจะต้องยื่นญัตติการปภิปรายไม่ไว้วางใจในปีนี้ 2.หากมีการยื่นในเดือน ธ.ค.62 จะเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดจนเกินไป เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และ 3.ได้รับแจ้งจาก ส.ส.ว่าติดภาระกิจเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงคิดว่าควรเลื่อนการปภิปรายออกไปก่อน เป็นเดือน ก.พ.63