นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเรื่องเงินกู้จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคฯ ว่า ตามที่กกต.มีมติตัดพยานหลักฐานที่เหลือ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมไม่ทันในวันที่ 2 ธ.ค.ว่า พรรคอนาคตใหม่ขอโต้แย้งว่า การที่ กกต.ออกหมายเรียกพยานเอกสารจำนวนหลายรายการ ทั้งๆ ที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา และพรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งพยานเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินให้แก่ กกต.ทั้งสิ้นแล้ว ได้แก่ สัญญากู้เงิน และหลักฐานการชำระหนี้เงินกู้ เอกสารเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญว่ามีการชำระหนี้เงินกู้จริง ซึ่งชำระเข้าบัญชีธนาคารของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งแต่เดือน ม.ค.62 เป็นต้นมา
สำหรับเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ยังมิได้จัดส่งให้ กกต.นั้นล้วนเป็นเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงิน เป็นที่น่าสังเกตว่า กกต.ได้เรียกเอกสารทั้งปวงโดยที่ กกต.ก็ไม่รู้ว่าจะนำเอกสารดังกล่าวไปดูในประเด็นอะไร จึงมีหมายเรียกเอกสารทางการเงินในลักษณะกวาดกองเอกสารทั้งปวงที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้พรรคการเมืองจัดทำขึ้นและรายงานต่อ กกต.ปีละครั้งภายในเดือนเมษายนของปีปฏิทินถัดไป เป็นเอกสารตามหมายเรียก ได้แก่ บัญชีรายวันและแสดงรายได้หรือรายรับและแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย, บัญชีแสดงรายรับจากการบริจาค, บัญชีแยกประเภท, บัญชีแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน โดย กกต.เรียกเอกสารดังกล่าวของวันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.62 โดยทำเป็นสำเนาและลงลายมือชื่อรับรองสำเนาเอกสารทุกหน้า
เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า ตามวิสัยและพฤติการณ์ กกต.เรียกให้ส่งเอกสารดังกล่าว โดยไม่คาดหมายว่าจะใช้ประโยชน์จากเอกสารดังกล่าวจริง และไม่คาดหมายว่าพรรคอนาคตใหม่จะส่งเอกสารให้แก่ กกต.ได้ทันหรือไม่ เพราะ กกต.กำหนดระยะเวลาส่งเอกสารสั้นอย่างยิ่ง กล่าวคือ สั่งเมื่อวันที่ 19 พ.ย.62 และกำหนดให้ส่งเอกสารภายในวันที่ 25 พ.ย.62 และต่อมาเมื่อพรรคอนาคตใหม่แจ้งส่งเอกสารบางรายการและผัดส่งเอกสารบางรายการ กกต.ก็ขยายระยะเวลาให้ถึงวันที่ 2 ธ.ค.62 ทั้งๆ ที่ทราบดีอยู่แล้วว่า เอกสารดังกล่าวจะจัดส่งให้ กกต.ได้ พรรคอนาคตใหม่จะต้องได้รับการตรวจรับรองความถูกต้องจากผู้ตรวจบัญชีเสียก่อน ซึ่งมีกำหนดตรวจปีละหนึ่งครั้ง ก่อนส่งยื่นบัญชีประจำปีให้แก่ กกต.
การที่ กกต.เร่งรัดเอกสารดังกล่าวโดยไม่นำพาว่าจำนวนปริมาณของเอกสารที่ต่อให้สำเนาทั้งวันทั้งคืน และลงลายมือชื่อทั้งวันทั้งคืน ก็ไม่อาจจัดสำเนาได้ทันระยะเวลาที่กำหนด กล่าวได้ว่าเอกสารทั้งสี่รายการแต่ละเดือนเทียบกับปีที่ผ่านมา เมื่อบรรจุลงแฟ้มความจุขนาดสันหนา 3 นิ้ว ข้อมูลเอกสารดังกล่าวจะมีจำนวนประมาณ 10 แฟ้มต่อหนึ่งเดือน
"จะเห็นได้ว่า กกต.แสร้งเรียกเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ต้องจัดทำส่งให้ กกต.อยู่แล้วในแต่ละปีภายในเดือนเมษายนของปีปฏิทินถัดไป โดยสร้างภาระให้พรรคอนาคตใหม่จัดทำบัญชีรายการดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 2 ธ.ค.62 จึงแสดงให้ตั้งเป็นปัญหาได้ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยสุจริตหรือไม่"
เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า การที่ กกต.ไม่วินิจฉัยว่าการกู้ยืมเงิน และมีการชำระหนี้เงินกู้กันจริงตามเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งให้ กกต.แล้ว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ในทางตรงข้าม กกต.กลับเรียกเอกสารบัญชีของพรรคอนาคตใหม่ โดยไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการกู้ยืมเงินกู้ และโดยที่ กกต.ยังไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาต่อพรรคอนาคตใหม่ หรือนายธนาธร ในเรื่องนี้ ฉะนั้นการตัดพยานของผู้ถูกกล่าวหาสามารถกระทำได้หรือไม่ ทั้งๆ ที่คดีนี้ยังไม่เริ่มการสอบสวนแต่อย่างใด ยังไม่มีผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหาแต่อย่างใด พรรคอนาคตใหม่ขอตั้งข้อสังเกตว่า จากเนื้อข่าวของที่ประชุม กกต.ดังกล่าวส่อธงคำตอบบางประการของ กกต.หรือไม่ อย่างไร และการอาศัยช่องว่างของกระบวนการสืบสวนเรียกพยานเอกสารในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อบุคคลที่จะถูกกล่าวหาเช่นนี้ ชอบธรรมเพียงใด และเป็นการตัดสิทธิให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองของผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่
"พรรคอนาคตใหม่ ขอสงวนสิทธิดำเนินการทางกฎหมายในกรณีที่พบว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบต่อเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุดทั้งทางแพ่งและอาญา" นายปิยบุตร กล่าว