นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงถึงการขยายเวลาสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ครั้งที่ 4 จำนวน 382 วัน ออกไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.63 ว่า ความจริงมีการขอขยายเวลามา 504 วัน แต่เมื่อหารือกับคณะที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ จึงตัดคำขอที่ไม่จำเป็นออกไป โดยขอยืนยันว่าการตัดสินใจในเรื่องนี้เป็นไปด้วยความรอบคอบ และไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนตามที่มีการกล่าวหา และความจริงในขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องเสียค่าปรับให้กับบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) แล้ว แต่ยังขอสงวนสิทธิ์ไม่จ่าย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการขยายเวลาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ แต่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของสภาจะทุ่มให้กับ STEC ทั้งหมด เพื่อให้เสร็จทันสิ้นปี 63
"เป็นความผิดพลาดของทางส่วนราชการเองที่ไม่สามรถเบิกจ่ายงบประมาณของระบบไอซีทีได้ทันตามกรอบเวลาในเดือนมิถุนายนปี 2561 ตามแผน แต่กลับมาเบิกได้ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมาล่าช้ามาถึงปี 2562 ซึ่งในกระบวนการก่อสร้างต้องให้ซิโน-ไทยหยุดรอกระบวนการ เพื่อรอให้บริษัทที่รับผิดชอบวางระบบไอซีทีเข้ามาวางระบบ ควบคู่กับการก่อสร้างไปพร้อมกัน"นายสรศักดิ์ กล่าส
นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ทาง STEC แจ้งว่าจะก่อสร้างอาคารห้องประชุมสุริยัน ซึ่งเป็นห้องประชุมของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเสร็จในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะติดตั้งระบบไอซีทีและสาธารณูปโภคอีก 30 วัน จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือน ก.พ.63
ด้านนายพินิจ พูลเกิด ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษาโครงการดังกล่าว ยืนยันว่า การพิจารณาเป็นไปด้วยความรอบครอบ และเป็นไปตามข้อกฎหมาย ไม่ได้ฮั้วกันตามที่เป็นข่าว เพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และกรณีนี้หากไม่รอบคอบจะเป็นเหตุให้ทางบริษัทเอกชนฟ้องร้องค่าเสียหายมากกว่าเดิมได้