นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า พรรคไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับมติของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย ไม่ช้าก็เร็วก็คงมาถึง แต่ยอมรับว่ามาเร็วกว่าที่คิดไว้ โดยยืนยันว่าไม่สามารถหยุดยั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และตนเอง รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ที่จะเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไปได้
"มติของ กกต.วันนี้ไม่สามารถหยุดการเดินทางของพรรคอนาคตใหม่ได้ เราเดินทางมุ่งหน้าทำงานอย่างสร้างสรรค์ต่อไป ให้มันรู้ไปว่าถ้าพรรคการเมืองหนึ่งกำเนิดขึ้นมาต้องการรวบรวมผู้คนที่ทนไม่ไหวกับสภาพการเมืองไทย กับความขัดแย้ง 13 ปีที่ผ่านมา ให้มันรู้กันไปว่าพรรคการเมืองที่รวมตัวของคนที่ต้องการเห็นอนาคตแบบใหม่ แสวงหาอนาคตแบบใหม่ร่วมกัน ออกจากความขัดแย้งแบบเดิม ๆ เขาจะไม่มีที่อยู่ที่ยืน"นายปิยบุตร แถลง
พร้อมทั้งระบุอีกว่า "พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเป็นเหมือน body เหมือนร่างกาย แล้วในร่างกายก็มีดวงใจ มีวิญญาณ Body ร่างกายไปอยู่ไหนก็ตาม จิตวิญญาณก็ตามไปทุกที่ มันเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ดังนั้น ผมเรียนว่าต่อให้คุณยุบไปกี่ครั้งมันก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะจิตวิญญาณแบบอนาคตใหม่ก็จะตามไปตลอดกาล ดังนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะมาไล่ยุบด้วยวิธีแบบนี้...อุปสรรคที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่สามารถขัดขวางเดินหน้าในการทำงานทางการเมืองของคุณธนาธรและผมได้"
นายปิยบุตร ยังกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ขอตั้งข้อเคลือบแคลงสงสัยต่อการทำงานของ กกต.การใช้ดุลพินิจ ใช้กฎหมายว่ามีวัตถุประสงค์เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีเรื่องผิดผันโดยมิชอบหรือไม่อย่างไร เพราะ กกต.เร่งรัดกรณีอย่างผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่เรียกไปสอบสวน แต่ให้ประธานคณะกรรมการไต่สวนเชิญไปชี้แจง 3 ครั้ง เรียกให้ส่งเอกสารจำนวนมาก บางส่วนเป็นเอกสารที่ต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานมาก และบางส่วนก็ไม่เกี่ยวกับคดี
นอกจากนั้น ในระหว่างการทำงานของ กกต.ที่พิจารณาคดีนี้ก็มีเอกสารหลุดออกมาว่ามีการตั้งธงไว้แล้วที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ก่อนที่จะมีการประชุม กกต.ชุดใหญ่ และยังมีการปล่อยข่าวถึงแนวทางการวินิจฉัย แล้วมติก็ออกมาตามที่แหล่งข่าวกล่าว เป็นกระบวนการชี้นำทางสื่อให้สังคมเชื่อว่าพรรคมีความผิดจริง
อีกทั้ง กกต.ได้ยกมาตรา 72 ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดห้ามการรับเงินที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งหมายถึงการคอร์รัปชั่น ทุจริต ฟอกเงิน ขายยาเสพติด ลักวิ่งชิงปล้น แต่คำถามคือเงินที่ได้จากการกู้เงินจากนายธนาธรผิดตรงไหน กกต.ก็ไม่ได้ชี้แจงออกมา เพราะเอกสารแถลงมติของ กกต.วันนี้มีเพียง 5 บรรทัด จากการประชุมเพียงวันเดียว
นายปิยบุตร เรียกร้องให้ กกต.ออกมารับฟังความเห็นของสังคมและประชาชนถึงการทำหน้าที่ในครั้งนี้ เพราะเกิดความคลางแคลงใจอย่างมาก และเรียกร้องให้ประชาชนอย่ายอมให้กระบวนการยุบพรรคที่ผิดปกติกลายเป็นเรื่องปกติจนกลายเป็นความคุ้นชิน
"ผู้มีอำนาจฟังเสียงประชาชนและเห็นหัวประชาชนบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับการทำงานของคุณ ประชาชนก็อย่ายอมให้การยุบพรรคที่ผิดปกติกลายเป็นเรื่องปกติ อย่ายอมให้การใช้กฎหมายเพื่อประหัตถ์ประหารศัตรูทางการเมืองซึ่งเป็นเรืองผิดปกติกลายเป็นเรื่องปกติ อย่ายอมให้กระบวนการ Law fare หรือนิติสงครามเดินหน้าต่อไปได้ เรื่องนี้ผิดปกติ และไม่มีทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้"
"หนังม้วนเก่าฉายซ้ำ กำลังจะเดินกล้อง เดินเรื่อง เดินฟิล์มอีกแล้ว แต่ยืนยันว่าหนังม้วนนี้จบไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน"นายปิยบุตร กล่าว