นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ระบุจะยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา 157 กรณีมีมติเสียงข้างมากให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคจากการกู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค
"ถึงเวลาที่ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่า เมื่อมติ กกต.ออกมาแบบนี้ ผมยืนยันว่าพรรคจะสู้ในทางกฏหมายอย่างเต็มที่ และเราก็จะสู้ในเรื่องของการฟ้อง กกต.เป็นคดีอาญาต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ฐานที่ใช้อำนาจโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา 157 สิ่งที่ใช้โดยมิชอบในข้อเท็จจริงมีอยู่ 2 เรื่องคือ เรื่องกระบวนการข้าม Fast Track เร็วมาก และการตีความกฎหมายให้เข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 72 แบบบิดผัน ใช้ไม่ตรงกับองค์ประกอบ" นายปิยบุตร กล่าวในที่ประชุม ส.ส.
นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเป็นเอกชนชัดเจน พรรคการเมืองไม่ได้ใช้อำนาจรัฐ เราจะได้ใช้อำนาจรัฐต่อเมื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เข้าไปเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งคำว่าเอกชนถ้าไม่มีอะไรห้ามก็มีเสรีภาพที่ทำได้หมด ทำได้ทุกอย่างเว้นแต่กฏหมายไม่ให้ทำ
ในระหว่างการชี้แจงสถานการณ์ของพรรคต่อ ส.ส.และสมาชิกพรรคในวันนี้ นายปิยบุตร ระบุว่า เหตุผลในการกู้เงินจากหัวหน้าพรรคนั้น เมื่อพรรคได้ก่อตั้งขึ้น สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกและรวดเร็วที่สุดเพื่อที่จะลงเลือกได้ครบทั้ง 350 เขต ก็คือต้องหาสมาชิกและตั้งสาขาพรรคให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อได้รับการรับรองในการจดจัดตั้งพรรคแล้ว ต้องเร่งระดมทุนหารายได้เข้าพรรคเพื่อใช้จ่ายในส่วนนี้
แต่ปรากฏว่าขณะนั้นมีคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง รวมทั้งการจัดระดมทุนรับบริจาคหรือขายสินค้าที่ระลึก จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจทำสัญญากู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค โดยกำหนดให้จ่ายดอกเบี้ยชัดเจน ซึ่งขณะนี้พรรคได้จ่ายคืนไปบางส่วนแล้วหลังจากสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้
หลังจากนายปิยบุตรอธิบายเหตุผลในการกู้เงินจากหัวหน้าพรรคเสร็จสิ้นลงแล้วได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ของพรรคร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่ง ส.ส.ที่เข้าร่วมรับฟังทั้งหมดยืนยันที่จะร่วมต่อสู้กับพรรค พร้อมทั้งแสดงว่ายังเชื่อมั่นและไม่เสียขวัญกับมติของ กกต.