"ทีมกฎหมายกำลังดูอยู่ อาจจะเป็นวันพุธช่วงเช้าไม่เกิน 11 โมง...ยังไม่รู้ว่ามติ 5:2 มีใครบ้างจึงจำเป็นต้องฟ้องทั้งหมดไปก่อน" นายปิยบุตร กล่าว
สาเหตุที่ต้องยื่นฟ้อง กกต.มี 2 ประการ คือ 1.กระบวนการพิจารณาคดีไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ และ 2.มีการใช้กฎหมายบิดผันเพื่อเป็นเครื่องมือโดยไม่สุจริต
"เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของคณะทำงานสืบสวนและไต่สวนหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น ยังไม่มีการเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ดีๆ กกต.ชุดใหญ่ก็มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างไร" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะได้แสดงพยานหลักฐานเพื่อให้การตัดสินถูกต้อง และเป็นหลักประกันในการทำหน้าที่ของทุกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 53 ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยยกคำร้องกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์กู้เงินจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เนื่องจาก กกต.ดำเนินการข้ามขั้นตอน ซึ่งน่าจะเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
การพิจารณาคดีต้องเริ่มตั้งแต่การแยกองค์ประกอบความผิด ไปจนถึงการชี้มูลความผิด ไม่ใช่การตั้งธงเอาไว้ก่อนแล้วหาช่องทางเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วก็มีเรื่องนี้ที่อาจตีความว่าเป็นนิติกรรมอำพรางเพราะเรื่องอื่นก็มีโทษทางอาญา ไม่มีเหตุแห่งการยุบพรรค
"การพิจารณาต้องว่าไปตามขั้นตอน ไม่ใช่เอาจากท้ายมาต้น ดูว่ามีกฎหมายช่องไหนรูไหนที่เอาผิดได้ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ กกต.มีมโนธรรมสำนึก แม้จะบอกสังคมว่าไม่มีใบสั่ง แต่โกหกตัวเองไม่ได้ เพราะมีที่มาจากการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยมาตลอดนับตั้งแต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง การนับคะแนนเขย่ง การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่มีคำถามเช่นกันว่าข้อร้องเรียนพรรคการเมืองอื่นนั้นทาง กกต.ได้ดำเนินการเช่นเดียวกันหรือไม่
"การพิจารณาคดีบางพรรคเร่ง-รีบ-รุก แต่บางพรรครอด" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า พรรควางแผนไว้แล้วที่จะต่อสู้คดีในทุกมิติ โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมข้อมูลไว้แล้ว แต่ยังไม่เห็นรายละเอียดคดี และหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวหา
"ที่มีข่าว (ศาลรัฐธรรมนูญ) จะเร่งคดีโดยไม่ต้องมีการไต่สวนเพราะมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะตัดสินได้นั้น เพื่อให้คดีเสร็จก่อนที่จะมีตุลาการชุดใหม่เข้ามา ขออย่าให้เป็นความจริง" นายปิยบุตร กล่าว