ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คนไว้พิจารณา ตามที่โจทก์ระบุฐานความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 69 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีเร่งรัดพิจารณาคดีหุ้นสื่อ วี-ลัค มีเดีย
อนึ่ง กกต.ทั้ง 7 ประกอบด้วย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย, นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี, นายปกรณ์ มหรรณพ, นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ และ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ เป็นจำเลยที่ 1-7
ทั้งนี้ ศาลอาญา ฯ ระบุว่า จากการพิเคราะห์คำร้องของโจทก์แล้วเห็นว่า กกต.ทั้ง 7 คนเป็นผู้ที่มีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นที่ว่า กกต.เร่งรัดสรุปสำนวนคดีโดยไม่ไต่สวนพยานตามที่ได้ยื่นคำร้อง หรือไม่ครบตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในระเบียบการไต่สวนวินิจฉัยชี้ขาดนั้น ศาลอาญาฯ เห็นว่าในระเบียบไม่ได้บังคับให้ต้องพิจารณาตามกระบวนการทุกข้อ หาก กกต.เห็นว่าเอกสารหลักฐานที่มีอยู่มีน้ำหนักเพียงพอและเป็นธรรมแล้วก็สามารถดำเนินการได้ อีกทั้งตามระเบียบ กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และสรุปสำนวนภายใน 20 วัน เว้นแต่หากต้องขอขยายระยะเวลาก็ทำได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน
อีกทั้งคำร้องของโจทก์กรณีดังกล่าวเป็นคำร้องเดียวกับที่เคยยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไปแล้วในระหว่างที่มีการไต่สวนคดีที่นายธนาธรต้องสงสัยว่าขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส.จากการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย ศาลอาญาฯ จึงเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยซ้ำในประเด็นเดียวกัน จึงพิพากษายกคำร้อง
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า นายธนาธรได้รับทราบคำสั่งของศาลอาญาฯ แล้วว่ายกคำร้องในคดีดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ทางทีมกฎหมายและทีมยุทธศาสตร์ของพรรคจะได้ปรึกษาหารือกันเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป