นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ยังคงมั่นใจว่ารัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีสปิริตและทำหน้าที่ด้วยความสื่อสัตย์สุจริต ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรก็มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ
ส่วนการที่ฝ่ายค้านให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้ดูแลการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า หากรัฐมนตรีทำงานด้วยเจตนาสุจริตก็ไม่ต้องกังวลอะไร แต่หากทำด้วยเจตนาทุจริตก็คงต้องกลัว อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาบรรยากาศด้วย การจะอภิปรายเรื่องอะไรควรมีขอบเขต เพราะปีใหม่แล้วบ้านเมืองต้องก้าวหน้าต่อไป
"ควรอภิปรายเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ ไม่ใช่พูดถึงเรื่องในอดีตหรือเรื่องในอนาคต หรือไปขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาลนี้ เพราะบางเรื่อง อาจทำให้สร้างความเคลือบแคลงสงสัย แต่ไม่ได้เป็นเกี่ยวกับการบริหารประเทศ" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายแล้วรัฐมนตรีคนใดผิดจริง คงไม่มีใครสามารถปกป้องได้ แต่หากถูกกลั่นแกล้งก็ต้องมีสปิริตการอยู่ร่วมกันเป็นคณะ ต้องช่วยกันปกป้องคนที่ถูกใส่ร้าย
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวอ้างเรื่องภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จนทำให้มีคนคิดสั้นฆ่าตัวตายว่า ขออย่ากล่าวอ้างในประเด็นนี้อย่างเดียว เพราะเหตุผลของการทำร้ายตัวเองมีปัจจัยหลายอย่าง ไม่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน โดยเฉพาะในภาวะที่ทำให้กระทบจิตใจอย่างรุนแรง ดังนั้นต้องจำกัดการเสนอข่าวประเภทนี้ให้มากที่สุด เพราะอาจเกิดภาวะอุปทานหมู่ได้ ซึ่งหากใครเกิดปัญหาเรื่องนี้ทางกรมสุขภาพจิตมีหน่วยงานที่คอยดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันดูแลในครอบครัว ไม่ให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ และหากพบว่าเข้าข่ายมีอาการให้รีบพบแพทย์
"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ พยายามที่จะเร่งให้มีการหมุนเวียนเงินงบประมาณให้เร็วที่สุด และคาดหวังว่าปลายเดือนมกราคมนี้ เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ผ่านความเห็นชอบแล้ว การใช้จ่ายของภาครัฐจะเกิดขึ้น เพราะว่ามีหลายโครงการที่ยังค้างท่ออีกจำนวนมาก การที่งบประมาณล่าช้าทำให้เกิดข้อติดขัดบ้าง เช่น กระทรวงสาธารณสุขที่ต้องรองบประมาณในการปรับปรุงและยกระดับโรงพยาบาล ซึ่งอีก 2-3 เดือน เชื่อว่าจะได้รับงบดังกล่าวแล้ว" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขกล่าว
ส่วนที่มีคำทำนายของโหรระบุว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาลนี้จนอาจถึงขั้นยุบสภานั้น นายอนุทินหวังว่าจะทำนายไม่แม่น เพราะหากรัฐบาลทำงานหนักและขยันทำงาน นำความตั้งใจ มุ่งมั่น ทุ่มเทให้กับบ้านเมืองอย่างเต็มที่ คนที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองนั้นมีโอกาสไม่มาก ซึ่งกว่าจะเข้ามาทำงานตรงนี้ ก็ได้ฟันฝ่าอุปสรรคเข้ามา เมื่อมีโอกาสแล้วจะต้องทำในสิ่งที่ดี
"เชื่อว่า ถ้าทุกคนขยันทำงาน จะเป็นพลังให้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ และเชื่อว่าการได้ทำตามในสิ่งที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ให้มากที่สุด ก็ต้องมั่นใจว่าจะครบหรือไม่ครบวาระก็จะอยู่ในใจของประชาชนตลอด และสิ่งที่จะตัดสินอนาคตของรัฐบาล คือผลงานที่ทำ ที่ประชาชนจะตัดสิน และจะทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ที่สุด" นายอนุทิน กล่าว