นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ตนพร้อมด้วย ส.ส. 52 คน ลงชื่อเสนอญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณามีมติให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร พ้นจากการเป็นกรรมาธิการตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 108 (5)
เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว เสียงข้างมากจำนวน 8 คนใน 15 คนมีมติยืนยันว่าต้องการให้ยุติการตรวจสอบการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยเหตุอยู่ในพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่ไว้วางใจให้คณะรัฐมนตรีบริหารราชการไปแล้ว ซึ่งไม่ได้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมาธิการฯ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกลับละเลยต่อมติดังกล่าว โดยอ้างข้อบังคับการประชุมและอ้างว่าอาศัยอำนาจประธานทำการตรวจสอบการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ถือว่าลุแก่อำนาจใช้อำนาจโดยฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ข้อบังคับประเพณีที่เคยปฏิบัติโดยไม่เคารพเสียงข้างมาก
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้วว่าไม่อยู่ในขอบข่ายอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย
"ขอเตือนพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ด้วยว่าขอให้หยุดการฝืนมติเสียงข้างมากของคณะกรรมาธิการ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการขั้นรุนแรงกว่านี้"นายไพบูลย์ กล่าว