ไทม์ไลน์คดี"อิลลูมินาติ": อีกครั้งของการตัดสินชะตาพรรคอนาคตใหม่

ข่าวการเมือง Tuesday January 21, 2020 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อีกครั้งของอุปสรรคสกัดเส้นทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หลังกวาดที่นั่ง ส.ส.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เกินความคาดหมาย แต่กำลังก้าวมาถึงจุดเสี่ยงว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีที่นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษากฎหมายเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 2, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ผู้ถูกร้องที่ 3 และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 4 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ หรือคดีที่เรียกกันว่าคดี"อิลลูมินาติ"ในเวลา 11.30 น.

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 บัญญัติไว้ว่า บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้

ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้

หากย้อนกลับไปดู คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ค.นายณฐพร ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ พร้อมทั้งขอให้มีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กก.บห.พรรคอนาคตใหม่

นายณฐพร ระบุว่า เหตุผลที่ยื่นคำร้องเพื่อป้องกันมิให้กลุ่มบุคคลใดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ประกอบได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่มนิติราษฎร์ ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด จนมารวมตัวกันตั้งเป็นพรรคการเมือง ก็ได้ข้อสรุปว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้มีแนวความคิด วัตถุประสงค์จะล้มล้างระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ขณะที่ข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีข้อความส่วนใดเลยที่แสดงการยอมรับความเป็น "การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" เนื่องจากมีเจตนาที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลง ดังที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของพรรค โดยใช้ข้อความว่า"หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ"ไม่มีคำว่า"อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"จึงเป็นกรรมที่แสดงเจตนาที่ต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับแนวคิดและนโยบายของพรรค แต่จะเห็นได้ว่าข้อบังคับของทุกพรรคการเมืองมีข้อความระบุถึง "การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"

นอกจากนั้น นายปิยบุตร แสดงทัศนคติ และแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ ต่างกรรม-ต่างวาระ รวมถึงการแถลงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่, นายธนาธร, นายปิยบุตร และ กก.บห.พรรค มีลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"จึงเป็นการกระทำของพรรคการเมืองที่เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร และราชบัลลังก์ และถือได้ว่า เป็นการลบล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ ที่มีลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่ากลับหัว จะพบว่ามีความเหมือนกับสมาคมอิลลูมิเนติ ซึ่งเชื่ออกันว่าสมาคมอิลลูมิเนติอยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองด้วยระบบกษัตริย์ของหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป รวมถึงการประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1779 แสดงให้เห็นเจตนาของพรรคอนาคตใหม่ที่ซ่อนเร้นวัตถุประสงค์แท้จริงของพรรค

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.62 ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณากรณีดังกล่าวแล้วมีมติเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) รับคำร้องของนายณฐพรไว้วินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าผู้ร้องได้ใช้สิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสองแล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสามที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

ถัดมาในวันที่ 20 ก.ค.62 นายปิยบุตร ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ เพราะการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นก็เพื่อฟื้นฟูและธำรงรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยฯ

ขณะที่วันที่ 21 ก.ค.นายธนาธร ยืนยันอีกว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะยุบพรรคภายใต้คำร้องนี้ และหากมีการพิจารณานอกเหนือจากมาตรา 49 ก็คือเป็นการพิจารณาเกินเลยอำนาจ เพราะการร้องในมาตรา 49 ให้อำนาจศาลในการพิจารณา แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการยุบพรรค

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องของพรรคที่ขอให้เปิดไต่สวนพยานในคดีดังกล่าว โดยระบุเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง

ต่อมาวันที่ 25 ธ.ค.62 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งนัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยและอ่านคำวินิจฉัยว่าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายธนาธร , นายปิยบุตร และคณะกรรมการบริหารพรรค กระทำการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ในวันที่ 21 ม.ค.63 เวลา 11.30 น.เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ยังมีคำสั่งรับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้วินิจยุบพรรคอนาคตใหม่ไว้พิจารณากรณีฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่บัญญัติห้ามไม่ให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ได้ว่ามาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อ 17 ม.ค.63 ทั้งนายธนาธร และ นายปิยบุตร ต่างออกมาระบุว่า ไม่อาจทราบได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 21 ม.ค.นี้ออกมาเป็นอย่างไร จากกรณีที่มีผู้ร้องว่าพรรคมีทัศนคติ ปฏิกษัตริย์นิยม, ล้มล้างการปกครองฯ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าคดี "อิลลูมินาติ" หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นโทษ ก็อาจทำให้ตนเองถูกตัดสิทธิทางการเมืองและพรรคอนาคตใหม่อาจถูกยุบพรรค

ด้านนายปิยบุตร ระบุถึงผลร้ายต่อสังคม 3 ด้านจากคดีอิลลูมินาติ คือ การยุบพรรคอนาคตใหม่คือการทำลายความหวังและความฝันของคนไทยทั้งประเทศที่อยากเห็นการเมืองที่ดีกว่าที่เป็นอยู่, เกิดการแบ่งแยกกันของช่วงวัย ช่วงอายุของคนในสังคม หรือที่เรียกว่า "Clash of Generations" ที่จะแตกแยกขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นไปอีก

ล่าสุด 18 ม.ค. 63 นายธนาธร ยืนยันว่าไม่ว่าจะยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ความแน่วแน่ในการทำงานการเมืองยังคงเดิม ปัญหาคือการเมืองไม่จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองเดียว แม้จะยุบพรรคไปก็ยังทำงานการเมืองในรูปแบบอื่น แต่ก็หวังว่าจะไม่ยุบ

วันนี้บรรดาแกนนำ และ ส.ส.พรรคทั้งหมดจะเดินทางมาร่วมฟังคำตัดสินพร้อมกัน ณ ที่ทำการพรรค โดยไม่เดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และจะเปิดแถลงข่าวภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วไม่ว่าผลจะเป็นคุณหรือโทษ

คดีนี้เป็นที่จับตาว่า พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ ทำให้สิ้นชื่อไปจากสาระบบการเมืองไทยหรือไม่ หลังจากที่นายธนาธร โดนสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ไปแล้วกับคดีการถือครองหุ้นสื่อ วี-ลัค มีเดีย จำกัด และจะเป็นการนำไปสู่แรงกระเพื่อมทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกันแบบไม่กระพริบตา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ