นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบเอาผิด 3 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ 1 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เนื่องมาจากการที่นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนางนาที รัชกิจปราการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่อยู่ที่ประชุมพิจารณา (ร่าง) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แต่ปรากฏว่ามีชื่อเป็นผู้ลงคะแนนเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวตามที่นายนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และอดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ได้นำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน จนกระทั่งนำไปสู่การใช้สิทธิตาม ม.148(1) ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยการเข้าชื่อกันของ ส.ส. 1 ใน 10 ของสภาฯในการเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น
พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.185 อันถือได้ว่าเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือของผู้อื่น และอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 และเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในข้อ 7 และข้อ 8 ในประเด็นที่ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ฯลฯ ซึ่งหาก ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีความผิดตามข้อห้ามข้างต้น ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง ส.ส. ตามมาตรา 101(7) ของรัฐธรรมนูญ 2560 และอาจมีความผิดตามพ.ร.ป. ป.ป.ช.2561 ม.28(1) และม.30 วรรคแรก ประกอบ ม.172 ได้
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจำต้องมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป