นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ในวันนี้จะประชุมทีมพรรคเพื่อไทย และเมื่อได้ข้อสรุปของพรรคเพื่อไทยแล้วก็จะไปพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในช่วงบ่าย และจะพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคในเย็นวันนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 29 ม.ค.นี้
สำหรับบุคคลที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นๆที่เสนอมานั้น นายสุทิน กล่าวว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเสนอ โดยยังอยู่ที่ 5+4 คน หรืออาจจะรวม 6-9 คนบวกลบกันไป เพราะขณะนี้มีข้อมูลใหม่ที่จะประกอบการอภิปรายเข้ามาด้วย อาทิ เรื่องมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รวมถึงปัญหาในสภาฯที่สะท้อนภาวะผู้นำและการแก้ปัญหาของประเทศว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ ซึ่งเรื่องใหม่นี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะบรรจุเข้าไปในญัตติเลยหรือไม่
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ประชาชนต้องการให้อภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะมากกว่าการอภิปรายเป็นรายบุคคลนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ก็พร้อมรับฟัง แต่ส่วนตัวเห็นว่าการอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะและรายบุคคลนั้นมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน เพราะการอภิปรายทั้งคณะนั้น เมื่อมีการลงมติทั้งคณะ ผู้ที่บริหารงานดีอาจจะถูกเหมารวมไปกับคนไม่ดีได้ ดังนั้น การอภิปรายเป็นรายบุคคลจะชี้ให้สังคมได้เห็นชัดเจนว่าใครคือจุดอ่อนที่ต้องจำกัด และใครคือจุดแข็งที่ต้องรักษาไว้
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจและวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยพร้อมจะยื่นญัตติในวันที่ 29 ม.ค.นี้ แต่หากจะเลื่อนไป 1-2 วันก็ไม่กระทบกับกรอบเวลา เชื่อว่าวันนี้จะได้ข้อยุติเรื่องถ้อยคำในร่างญัตติที่จะยื่น
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการอภิปรายถึงความล้มเหลวในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยกรอบใหญ่ที่ได้หารือกัน คือกรอบเศรษฐกิจ กรอบปัญหาทางด้านสังคมอื่นๆ ทิศทางการทำงานของประเทศ และกรอบการคอร์รัปชั่น ซึ่งพรรคอนาคตใหม่จะอธิบายไปในทิศทางดังกล่าว พร้อมเชื่อมั่นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำให้ประชาชน เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ และความล้มเหลวในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้
นายธนาธร กล่าวว่า อยากให้ประชาชนและ ส.ส.ไม่ว่าฝ่ายใดร่วมกันตรวจสอบและพิจารณาสิ่งที่ฝ่ายค้านจะนำเสนอ หากฟังอย่างเปิดใจและไม่ใช้อคติ เชื่อว่าสังคมจะเห็นคล้อยตามไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่สามารถไว้วางใจให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศต่อไปได้
นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่ค่อยสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย รวมไปถึงการออกแบบรัฐธรรมนูญในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา พรรคฝ่ายค้านจำเป็นต้องอภิปรายเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี และยืนยันว่ามีหลักฐานที่สามารถจับต้องได้ เพราะมีประชาชนส่งเข้ามาให้จำนวนมาก รวมถึงเรื่องการปฏิรูปที่มีแต่เพียงตัวหนังสือ แต่ในเชิงปฏิบัติกลับไม่มีความคืบหน้า
ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค จะอภิปรายพุ่งเป้าไปที่ปมปัญหาการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรีและ ครม.โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และจะอภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ด้วย รวมถึงกรณีที่คณะกรรมการสรรหา ส.ว.เลือกตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ว. และให้ ส.ว.ทั้ง 250 คนโหวตเลือกผู้แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรม ไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44