โคลัมเบียและเอกวาดอร์ใกล้จะยุติข้อขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้นจากปัญหาการรุกรานข้ามพรมแดนของกองทัพโคลัมเบียเพื่อสังหารผู้นำกลุ่มกบฏเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มาเรีย อิซาเบล ซัลวาดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเอกวาดอร์ กล่าวว่า เอกวาดอร์เป็นประเทศที่รักสันติภาพและไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโคลัมเบียนั้นยังอยู่ในขั้นที่น่าเป็นห่วง และคงจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในวันนี้ โคลัมเบียเองต้องการหลีกเลี่ยงที่จะถูกประณามเรื่องการรุกราน ตามที่เคยทำข้อตกลงไว้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเอกวาดอร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์รัฐอเมริกา (โอเอเอส) ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวได้กำหนดขอบเขตของการสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข้อตกลงครั้งนี้ได้เรียกร้องให้นายโฮเซ มิเกล อินซัลซา เลขาธิการโอเอเอส จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ และจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเพื่อพิจารณาถึงผลพวงที่เกิดขึ้น ซึ่งการดำเนินการในลักษณะเช่นนี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในภูมิภาค ในขณะที่เวเนซูเอล่าได้ส่งรถถังเคลื่อนพบเข้ามายังบริเวณชายแดนของโคลัมเบียตามคำสั่งของประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเวซ ซึ่งเคยกล่าวไว้ว่า การประท้วงของโคลัมเบียเป็นการประท้วงที่เสี่ยงทำให้เกิดสงคราม
เวเนซูเอล่าได้สั่งการให้กองทัพเรือและกองทัพอากาศเตรียมพร้อม นอกเหนือไปจากการสั่งการให้รถถัง 10 คันพร้อมทำหน้าที่ นายชาเวซยืนยันว่า จะให้การสนับสนุนประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ของเอกวาดอร์ ซึ่งสั่งการให้เพิ่มกองกำลังประจำบริเวณชายแดน หลังจากที่ชาวโคลัมเบียได้สังหารรองหัวหน้ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติของโคลัมเบีย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--